ราฟาเอลรับน้ำในมือหญิงสาว สายตาคมแหงนมองใบหน้าสวย เพราะปกติคนที่มาหาไม่เคยมีเรื่องคุยกัน เธอไม่ช่างพูด ช่างขอเหมือนผู้หญิงบางคนส่วนนี้ที่ทำให้ราฟาเอลพอใจ แต่เธอดูแลเขาด้วยหัวใจ จุดนี้ราฟาเอลคิดว่าเขามั่นใจ หนูนาเองก็หน้าแดงเมื่อคิดว่าเรื่องเดียวที่เธอกับเขามีร่วมกันภายในห้องนี้นั่นคือการร่วมรักที่เร่าร้อน
“เอ่อ คุณดื่มน้ำก่อนสิค่ะ”
“ไม่ล่ะ ฉันแวะมาเอาของลืมทิ้งไว้ จะกลับเลย”
“กลับเลย” หนูนาใบหน้าซีด หยุดตนเองไว้ ตอนแรกคิดว่าจะเดินเข้าไปกอดร่างสูง แม้ไม่เคยทำนอกจากเวลาอยู่บนเตียงแต่วันนี้ไม่รู้ทำไมหัวใจมันร่ำร้องอยากจะกอดเขาเหลือเกิน
“เป็นอะไรไป” ราฟาเอลเห็นสีหน้า ท่าทีหญิงสาวถามด้วยความสงสัย “หรืออยู่กับฉันมาหกเดือนขาดฉันไม่ได้เสียแล้วรึไง”
“ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ” เธอตาแดง ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่ราฟาเอลสุดแสนเบื่อ
อีกคนแล้วสินะ…ราฟาเอลไม่แปลกใจหากผู้หญิงทุกคนของเขาจะมีมากกว่าคำว่าเซ็กที่เร่าร้อนให้กัน หากชายหนุ่มก็เบื่อหน่ายเกินจะฟังคำนั้น สำหรับราฟาเอลผู้หญิงก็แค่ที่ปลดปล่อยอารมณ์ ชายหนุ่มไม่พึงประสงค์คำว่ารักที่น่าเบื่อ เขาเองก็ไม่คิดจะให้คำนั้นกับใครเช่นเดียวกัน
แต่ขณะนี้เมื่อเห็นตาแดงก่ำ ใจชายหนุ่มสั่นไหวรุนแรง ทนไม่ได้จนต้องเดินมาโอบกอดหญิงสาว น้ำตาหนูนาพาลจะไหลออกมากับการกระทำนั้น
“จำที่ฉันเคยคุยกับเธอได้รึเปล่า วันแรกที่เราเจอกัน ฉันเข้าใจว่าเธอคงรู้สึกผูกพันกับผู้ชายคนแรกในชีวิต แต่เมื่อเราจากกัน ในวันหนึ่งมีคนใหม่เข้ามาเธอก็จะลืมฉันเอง อย่าคิดมารักฉันเลยนะ” ราฟาเอลไม่คิดพูดให้มันแตกต่างกับผู้หญิงคนก่อนหน้าของตน แม้ครั้งนี้ถ้อยคำที่ใช้จะนุ่มนวล แต่ความหมายก็ไม่ได้แตกต่าง
“คุณ…” เธอน้ำเสียงสั่น
“อาจแค่ความใกล้ชิด เซ็กซึ่งลงตัวของเรา เธอก็เลยคิดว่าเธอรักฉันแต่มันจะเป็นไปได้หรือ…”
“แต่คุณไม่ได้มีใครไม่ใช่หรือค่ะ หนูนาขอ…”
เพราะน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้หนูนากล้าพูดเข้าเรื่องที่ซักซ้อมไว้หลายวัน หากเมื่อเธอพูดออกไปแค่นิดเดียวร่างสูงที่โอบกอดกันแข็งไปชั่วขณะ หนูนาชักหวาดหวั่นว่านั่นจะเป็นลางที่ไม่ดีหรือเปล่า
“ถึงฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอขอ ให้ไปทำงานได้เหมือนเมื่อก่อน ไม่ซักถามว่างานอะไร เชื่อใจเธอ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวแต่เธอไม่มีสิทธิ์ทำอย่างที่ฉันทำ” ราฟาเอลปลดมือเรียวที่โอบกอดตนไว้เดินเข้าในห้องนอนเพื่อหาเนกไทเส้นหนึ่งที่ทิ้งไว้เมื่อหลายวันก่อน
หนูนายืนขาสั่น ใจสั่น ปวดร้าวจนจุกแทบหายใจไม่ออก ที่สำคัญวิตกกังวล
“คุณว่า…อะไรนะคะ” หากก็กลั้นใจเก็บความเจ็บปวดถามออกไปเพราะอยากฟังซ้ำอีกรอบ เพื่อให้หัวใจซึ่งเฝ้ารอรู้ซึ้งถึงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
“ฉันมานี่นอกจากมาเอาของ จะมาบอกเธอว่าจะไม่มาที่นี่อีก”
“ยังไม่ถึงปีเลยนะคะ”
“บางทีฉันคิดว่า คงถึงเวลาแล้ว หมายถึง ฉันจะแต่งงาน… ส่วนเรื่องเวลาไม่เป็นไร จะมอบเช็คก้อนใหญ่ให้เธออีกด้วย ตอบแทนที่เธอมอบความสุขให้ ไม่เคยอิดออดว่าฉันต้องการเมื่อไหร่ อย่างไรและที่ไหน ฉันพอใจมาก”
ไม่ใช่เวลามาหน้าแดงอีกต่อไป เพราะหัวใจกำลังสับสนและเริ่มจะร้องไห้ หนูนาจึงก้มหน้าลงมองพื้นห้อง แอบเช็ดน้ำตา
แม้ใจหน่วงแปลกๆ เมื่อเอ่ยล่ำลานางบำเรอเบอร์ล่าสุด แต่จำต้องพูดออกมา ยิ่งเห็นคนตรงหน้าคิดฝันไปไกลกว่าตำแหน่งที่ตนมอบให้ยิ่งคิดว่า ไม่ช้าก็เร็วต้องพูดถ้อยคำเหล่านี้
“คุณมีคนรักสินะ” เอ่ยเสียงแผ่ว เผลอลูบหน้าท้องเบามือ
ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธเดินเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ยอมรับว่าพอใจในรสรักของหล่อน หยิบเช็คที่เตรียมมายื่นให้
“เอาไปสิ หวังว่าคงมากพอ”
ม่านตากลบสองตาจนไม่อยากเงยให้เขาเห็น ราฟาเอลรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก แต่ก็ไม่รอช้ายัดเช็คเข้าในมือหญิงสาว ตั้งท่าเดินออกจากห้อง
“คุณ…” เสียงเศร้าสร้อยทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก
“ดูเหมือนเธอจะไม่จดจำเรื่องที่เคยตกลงกันไว้นะ”
น้ำเสียงแข็งกร้าวทำให้หนูนาเม้มริมฝีปาก เก็บถ้อยคำที่ต้องการบอกเขาไว้อีกครั้ง
“หนูนาจะย้ายออกไปวันนี้เลยค่ะ ขอโทษที่ทำให้คุณลำบากใจ” จึงเอ่ยอีกเรื่องแทน
“อยู่ต่อไปจนกว่าเธอจะหาคนที่…จะหาที่อยู่ใหม่ได้ ฉันไม่ว่า”
ร่างสูงเดินจากไปพร้อมกับตบหน้าเธอแรงๆ ด้วยคำพูดดูแคลน…แต่เธอมีสิทธิ์อะไรจะเคืองโกรธ เขาเข้าใจถูกต้องทุกอย่าง เธอมันเป็นเพียงผู้หญิงขายตัวเพื่อแลกกับความสุขสบาย และเงินเท่านั้น
หนูนากำเช็คในมือน้ำตาไหลพราก ปวดหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็น
ขอบคุณที่แวะเวียนมาหากันน่า
ลิขิตนางฟ้า