“ข้าอยากเล่นซ่อนแอบกับเจ้า…อีกสักครั้ง” น้ำเสียงอ่อนระโหยเหมือนใบไม้แห้งใกล้ร่วงหล่นกลับต้องสายโลมโบกพัดทำเอาจะปลิดปลิวจากขั้วเสียให้ได้ เสียงนางแหบแห้งจนแทบไม่เหลือเค้าอดีตฉายาสือเย่นกหงส์หยกน้อยแห่งจวนสกุลจางอีกเลย มืออีกข้างของเขาจับมือของนางเอาไว้อย่างทะนุถนอม มือใหญ่หนาอบอุ่นกุมมือเล็กบางเบาเย็นยะเยือกดังธารน้ำแข็ง น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเหลือประมาณ “สือเย่ เจ้าไม่ต้องใจร้อนไป… ไว้หายดี ข้าจะเล่นเป็นเพื่อจนเจ้าเบื่อเลยทีเดียว”
หญิงงามใบหน้าซีดเซียวราวซากศพสายหน้าช้าๆ นางมิได้หันมองเขา ไม่แม้แต่เหลือบแลเพียงชั่วแวบหนึ่ง สายตาของนางทอดออกไปไกลแสนไกล ท่ามกลางท้องฟ้าดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนย้ายจากขอบฟ้าไปยังเบื้องบน แสงอรุณแรกแย้มช่างงดงามปานนี้ ดวงสุริยันดังผลส้มสุกสีทองอร่ามค่อยๆสาดทอแสงบางเบา แม้ยามนี้จะเป็นช่วปลายงฤดูใบไม้ผลิ อากาศยังคงเย็นเยียบแต่แสงตะวันกลับทำให้นางรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
“ไม่…” เสียงคำว่า ‘ไม่’ ช่างแผ่วเบาราวปุยนุ่น “ข้าอยากเล่นเวลานี้” เทียนหยู ไม่รู้ควรรับมือนางอย่างไรเขาทำได้เพียง “ก็ได้ หากเจ้าอยากเล่นก็ได้ แต่ร่างกายแบบนี้เจ้าจะไปซ่อนที่ใดเล่า แบบนี้เท่ากับข้าเอาเปรียบเจ้าเกินไป” เขาหันไปมองหน้านาง แววตาสื่อรักและรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น
“เชื่อข้าเถอะสือเย่คนดี ไว้เจ้าหายดี ข้าจะพาเจ้าไปทุกที่ๆเจ้าอยากไป เจ้าอยากเล่นอะไรข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้า” มือข้างที่เหลือปัดเส้นผมที่ระหน้านางเบาๆอย่างทะนุถนอมด้วยเกรงนางจะบุบสลายไป
สือเย่เอ่ยเสียเบาแสนเบาราวกระซิบ “เจ้า…หลับตาสิ” นางหอบหายใจลำบากยิ่ง “ข้าจะซ่อนให้เจ้าดู”
เทียนหยูอึกอักแต่ไม่กล้าขัดใจนาง “ก็ได้ ก็ได้ เช่นนี้ ข้าจับมือเจ้าไว้แบบนี้ดูซิว่าเจ้าจะหนีไปที่ใดกัน” เขาพยายามพูดติดตลก แต่นางยังคงนิ่งงัน จนกระทั่งยิ้มออกมาเชื่องช้า ร่างบอบบางปานกระดาษขาว เพียงโดนสายฝนพรำนางก็อาจขาดวิ่นไปได้ นางพยายามประคองการหายใจเข้าออกให้สม่ำเสมอ จนกระทั่งลมหายใจพะแผ่วของนางทำให้อกเคลื่อนตัวขึ้นลงเชื่องช้า เทียนหยูรู้สึกหวาดหวั่นในอก
“คราวนี้ เจ้าแพ้แน่ๆ” หญิงสาวหัวเราะหึ “หลับ…” เสียงหอบหายใจระโหยทำให้เขาอยากจะขัดใจอุ้มนางกลับไปยังๆกระท่อมเก่าๆที่พักชั่วคราวนั่น แต่เขาไม่กล้าขัดใจนาง ไม่กล้าทำให้นางโกรธอีกแล้ว
“หลับตาเจ้าเสียสิ” ชายหนุ่มมองหน้านางอีกครั้ง นางค่อยๆหันมองตอบเขาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “หลับ…ตา” เขายิ้มให้ ไม่กล้าขัดใจนาง “ได้…ได้ ข้านับแค่สิบเท่านั้นนะ ดูซิเจ้าจะแกล้งข้าได้อย่างไรคราวนี้”
เทียนหยู จับมือเย็นเฉียบเอาไว้แน่น แน่นกว่าครั้งใดที่เขาเคยจับมือของนางมาชั่วชีวิต ก่อนจะปิดตาลงเอาหลังพิงต้นไม้ “หนึ่ง… สอง…สาม…” นางมองหน้าเขายกยิ้มอีกครั้งก่อนจะหันหน้ากลับไปมองท้องฟ้ากว้าง … ได้เวลาแล้วสินะ คราวนี้จ้างให้เขาก็หานางไม่เจอ…