คู่แรก...อีเดน+มารียา
ขณะที่เลขาใหญ่วัยสี่สิบเจ็ดปีกำลังพาผู้ช่วยเลขาใหม่ทัวร์ห้องของท่านประธานอยู่นั้น อยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา ทำเอาทั้งสามถึงกับสะดุ้งและหันไปมองพร้อมๆ กัน
“สวัสดีท่านประธาน” เอมอรทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“...” อีเดนยืนนิ่งไปราวกับถูกสาป เมื่อเห็นสาวเจ้าคนที่ทำให้ตนตามหาจนแทบจะเป็นบ้า...อยู่ตรงหน้า!
“คนที่เราเจอที่คลับคืนนั้นนี่รียา” อลิชาหันไปกระซิบเพื่อนสาว
มารียาสบตากับคนที่เป็นวันไนท์สแตนด์ ก่อนจะชาวาบไปทั้งตัว ‘บ้าจริง! ทำไมโลกมันถึงได้กลมแบบนี้นะ’
“เอมพาผู้ช่วยคนใหม่มาแนะนำสถานที่ค่ะ” เอมอรรีบบอกเมื่อเห็นผู้เป็นนายเงียบไป
“รบกวน...ทุกคนออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมครับ” อีเดนเอ่ยพร้อมกับจ้องมองใบหน้างดงามที่ตราตรึงในหัวใจอย่างไม่วางตา
“ดะ...ได้ค่ะ” เอมอรหันไปพยักหน้าให้สองสาวออกจากห้อง ไปด้วยกัน
“ยกเว้นคุณ...รียา อยู่ก่อน” อีเดนรีบดึงแขนบางของคนที่กำลังจะเดินผ่านหน้าตนเอาไว้
“เอ่อ...ฉะ...ฉัน...” มารียาสั่นขึ้นมาทันใด เมื่อเห็นสายตาดุดันของอีกฝ่าย
“ผมขอเวลาคุยเรื่องส่วนตัวกับคุณรียา ห้ามใครเข้ามารบกวนครับ” อีเดนบอกเสียงเข้ม
“ค่ะท่าน” เอมอรเอ่ยรับเบาๆ
“ระ... รียา ฉันอยู่ข้างนอกนะ” อลิชาบอกก่อนจะเดินตามเลขาใหญ่ออกไป มารียามองตามเพื่อนสาวจนกระทั่งประตูห้องปิดลง
“มะ...มีธุระอะไรกับฉันหรือคะ?” เธอเหลือบมองใบหน้าคมเข้มแวบหนึ่งด้วยหัวใจสั่นๆ
“เวลาผัวจะคุยกับเมียนี่ต้องมีธุระด้วยงั้นเหรอ” อีเดนเอ่ยรวนน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อเห็นท่าทีเหินห่างของสาวเจ้า
“คะ... ใครเมียคุณไม่ทราบ!” มารียาจ้องมองใบหน้าหล่อเหลา ที่กำลังบูดบึ้งด้วยสายตาเอาเรื่อง
“คุณไงรียา! คุณเป็นเมียผม” อีเดนเอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงเดือดดาล ‘พระเจ้า! ตามหาแทบตาย สุดท้ายก็เป็นพนักงานใหม่’
“ไม่ใช่! ระ...เราแค่สนุกกัน แล้วก็จบ ต่างคนต่างแยกย้าย” เธอแจงอายๆ ระคนโมโหที่อีกฝ่ายพูดจาหยาบคาย
“อะไรนะ! จบงั้นเหรอ ต่างคนต่างแยกย้ายงั้นเหรอ?” อีเดนทวนเสียงสูงอย่างไม่เชื่อหูที่สาวตรงหน้าพูดจาราวกับสาวที่รักสนุก
“ใช่ค่ะ” มารียาพยักหน้านิ่งๆ ‘ตาบ้านี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ที่จริงจังกับผู้หญิงที่เจอได้แค่วันเดียว’
“พูดง่ายดีนะ” อีเดนเอ่ยเยาะ
“ก็แล้วคุณจะให้ฉันพูดยังไงล่ะ”
“ก็พูดว่าคุณขอโทษที่ทิ้งผมไว้ที่โรงแรมยังไงล่ะรียา”
“ฉันไม่ได้ทิ้ง!”
“งั้นทำไมถึงไม่ปลุกผม”
“ก็แล้วทำไมฉันต้องปลุกคุณด้วยล่ะ บ้านเราไม่ได้กลับทางเดียวกันสักหน่อย”
“พระเจ้า คุณไม่แคร์เรื่องคืนนั้นของเราจริงๆ ด้วย”
“ฉันเมา คุณก็เมา แล้วคุณจะให้ฉันเรียกร้องอะไรล่ะ ต่างคนต่างไปน่ะดีแล้ว”
“แต่ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณนะ” อีเดนบอกสาวมั่นที่ทำท่าโนสนโนแคร์อย่างไม่อยากจะเชื่อหูเชื่อตาตัวเอง
“ทุกคนต้องมีครั้งแรกเสมอ” เธอกัดฟันบอกทั้งๆ ที่ความคิดและความรู้สึกภายในใจกำลังสับสน
--------------คู่ที่ 2 ปริญ+อลิซ
“พี่ป้อง! จะพาหนูไปไหน” อลิชาถามหน้าตื่นเมื่ออีกฝ่ายพาเดินไปยังมุมลับที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
“ไปหาที่คุย” ปริณตอบโดยไม่หันมามอง
“คุยที่นี่ก็ได้ค่ะ” อลิชาสะบัดแขนออกจากอีกฝ่ายทันใด
“หึ! ก่อนออกจากบ้านไม่ส่องกระจกดูตัวเองเหรอ?” ปริณถามด้วยสีหน้าตึงๆ
“ทะ...ทำไม” อลิชาถามเสียงสั่น รีบยกมือขึ้นปกปิดหน้าอกหน้าใจของตัวเองเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“แต่งตัวอย่างกับผู้หญิงสำส่อน” เขาต่อว่าอย่างโมโห
“พี่ป้อง!” อลิชาน้ำตาคลอขึ้นมาทันใดเมื่อได้ยินคำว่าผู้หญิงสำส่อน
“อะไร! พี่พูดผิดงั้นเหรอ” ปริณถามด้วยสีหน้ากวนๆ
“ฮึก...แล้วทีแฟนตัวเองล่ะ ทำไมไม่ว่า มายุ่งกับหนูทำไม!”
เธอยกมือขึ้นปาดน้ำใสๆ ที่หางตาทิ้ง ก่อนจะถามกลับอย่างไม่พอใจเมื่อพี่ชายของเพื่อนชอบดุ และชอบล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวราวกับว่าเธอเป็นลูกสาวของเขายังไงยังงั้น
“ฟังนะ! คนอื่นจะแต่งตัวยังไงหรือจะแก้ผ้าเดินพี่ไม่สน! แต่ต้องไม่ใช่เธอ” ปริณบอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ทะ...ทำไมต้องว่ากันขนาดนี้ด้วย ฮึก...ฮือๆๆ” อลิชายกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่
คนที่กำลังเดือดหัวใจกระตุกวูบ เมื่อเห็นสาวเจ้าร้องไห้จนสั่น ‘บ้าฉิบ! นี่เราทำเธอร้องไห้อีกแล้วเหรอวะ’ ปริณต่อว่าตัวเองก่อนจะรีบดึงสาวเจ้าเข้ามากอดปลอบ ทั้งที่ยังไม่หายโกรธเรื่องที่เธอแต่งตัวโป๊เปิดหน้า เปิดหลังล่อเสือล่อตะเข้
“ปล่อย! ฮึก...” อลิชาบอกพร้อมกับพยายามผลักอีกฝ่ายออก
“ก็หยุดร้องไห้ก่อนสิ แล้วพี่จะปล่อย” ปริณบอกเสียงอ่อนลง
“ฮึก...” อลิชาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะดันอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัวอีกครั้ง ‘บ้าจริง! นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ถูกพี่ป้องตบหัวแล้วลูบหลัง เจอหน้ากันทีไรก็ด่าและใช้คำแรงๆ พอเราร้องไห้ เขาก็จะยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ซับน้ำตา หึ! นี่เขาเห็นเราเป็นอะไรกัน?’
“ไปล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรทานกับพี่” ปริณบอกก่อนจะถอดสูทออก แล้วเอาไปคลุมไหล่เพื่อจะปิดบังแผ่นหลังที่บอบบางของสาวเจ้าไม่ให้ใครเห็น
น้ำเสียงและการกระทำที่ดูอบอุ่นนั้น ทำให้อลิชาเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองตามที่ปริณบอกราวกับคนต้องมนตร์สะกด!