‘จิวหลิงเฟย’
ประมุขพรรคมาร...บุรุษผู้โด่งดังที่สุดในใต้หล้าในด้านของความโฉดชั่วอำมหิต
ได้ตายลงไปด้วยสาเหตุสั้นๆที่ว่าชิ้นเนื้อจากข้าวหน้าหมูทอดติดคอจนตาย
ภายในเวลา 7 วัน 7 คืนเขาก็ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยฝีมือของลูกน้องผู้ใกล้ชิด
แต่ว่ากลับกันความทรงจำบางส่วนของท่านประมุขกลับหายไปเสียนี่?!
ด้วยร่างกายแบบผีดิบนี้เอง จิวหลิงเฟยจึงต้องรับตำแหน่งหน้าที่ท่านประมุขอย่างจำยอม
พร้อมต้องดูแลร่างกายที่ค่อยๆเปื่อยเฉาของตัวเองอีกด้วย
แม้กระทั่งสละตำแหน่งก็ยังทำไม่ได้ ต้องระวังไม่ให้ชิ้นเนื้อหลุดไปให้กากิน
ทั้งยังกล่าวสุภาษิตให้ลูกน้องฟังเป็นกิจวัตรทุกเช้า-เย็น
อยู่อย่างคงกระพันห้ามแพ้ใคร แสดงความโฉดชั่วอย่างสุดความสามารถ
และต้องระวังไม่ให้โดนใครแยกชิ้นส่วน...หากจำต้องสู้กับศัตรู ให้ถอดแขนไล่ตีจนตาย!
“เป็นประมุขพรรคมารทำไมมันยากแบบนี้!!!”
_______________________________________________________________________
“ท่านประมุขโปรดสงบลงก่อน! ของพวกนี้ท่านเป็นคนทำไว้เพื่อแสดงความน่าเกรงขามต่อคนในพรรคขอรับ!” หลี่เฉินก้มหน้าพูด
“พรรคอะไร” ข้าถามไป ตอนนี้รู้สึกกรุ่นมากกว่าจะสงสัยแล้ว
“พรรคมารเฮยเฟิงขอรับ ท่านคือประมุขพรรคมารเฮยเฟิง นามจิวหลิงเฟยผู้เกรียงไกรสยบใต้หล้า แม้แต่พรรคมารกันเองยังมิอาจหาญกล้าเข้ามา ขนาดพรรคฝ่ายธรรมมะยังต้องยอมศิโรราบ ปลิดชีพได้ทั้งสวรรค์และบาดาล เก่งกาจเหนือผู้ใดไม่มีใครเทียมขอรับ!” หลี่เฉินรับหน้าที่ตอบจนข้าคิดว่านั่นอาจจะเป็นหน้าที่ประจำของเจ้าตัวไปแล้ว
ถึงจะยาว... แต่ข้าชอบ...
“จิวหลิงเฟย...” ข้าทบทวนชื่อตัวเอง ส่วนฉายาพยายามเมินเฉย “ข้าจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไร คงต้องขอให้พวกเจ้าช่วย แต่ว่าในตอนนี้พรรคข้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ในครานี้พรรคมารเฮยเฟิงของพวกเรากำลังประสบเคราะห์ บนบัลลังก์ไร้ผู้นำมาดูแล แต่ว่าตอนนี้ท่านได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยไข่มุกอาญาสวรรค์ การกลับมาของท่านจะทำให้พวกเรากลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งขอรับ!”
“.....”
ข้าลุกขึ้นนั่ง... มองดวงตาของคนทั้งคู่ที่กำลังคาดหวังในตัวข้า แต่น่าเสียดาย...
“ข้าว่าพวกเจ้ากำลงประสบเคราะห์แล้วล่ะ”