ร่างขาวเพรียวบางระหง นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงกว้างหนานุ่ม ใบหน้าเรียวงดงามหลับตาพริ้มนิ่งสงบ ชุดเดรสเข้ารูปสีน้ำเงินกำมะหยี่สั้นแค่เข่า รัดรึงกระชับเข้ากับรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นได้สัดส่วนอย่างน่าหลงใหล ท่อนขาขาวเรียวนวลเนียนไร้ที่ติ สะโพกผายกลมกลึงรับกับเอวที่คอดกิ่ว หน้าอกที่ได้ขนาดมาตรฐานเบียดกระชับขึ้นจนเห็นเนินอกขาวอวบอิ่ม มันกระเพื่อมขึ้นลงด้วยแรงหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
ชั่วครู่ เปลือกตาที่ประดับไปด้วยแพขนตาหนายาวงอนงามสีดำทั้ง 2 ข้าง ก็เริ่มกระพริบถี่ ก่อนจะ เปิดขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตากลมโตสีดำ ดั่งนางกวางมองแน่นิ่งที่เพดานห้อง ก่อนค่อย ๆ เหลือบแลมองไปรอบ ๆ
ภาพห้องนอนหรูหรา สะท้อนเข้ามาในสมองที่ยังมึนอยู่นิดหน่อย แต่เธอก็สามารถรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่ห้องที่เธอไม่คุ้นชินมาก่อน
สมองน้อย ๆเริ่มประมวลข้อมูลความทรงจำต่าง ๆ ที่ผ่านมา
ดวงตากลมโตคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ เมื่อจำบางอย่างได้ และมันก็ส่งผลให้ร่างเพรียวบางกระเด้งลุกขึ้นนั่งบนที่นอนหนานุ่มทันที
การลุกขึ้นกะทันหันส่งผลให้เธอรู้สึกปวดร้าวทั้งศรีษะ มือเรียวยกขึ้นกดคลึงที่ขมับ แล้วก็เรื่อยไปบีบนวดต้นคอ จนรู้สึกดีขึ้น เรียวขาขาวค่อยหย่อนลงจากเตียง เพื่อยืนขึ้น พลางก้มมองสำรวจร่างกายของตนเอง
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างโล่งใจ เมื่อพบว่าเสื้อผ้าที่ใส่ยังอยู่ครบ ไม่มีร่องรอยฉีกขาดแม้แต่น้อย รวมทั้งสภาพของร่างกายก็ยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีอะไรบุบสลาย ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเกิดรอย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ใช่ เธอตกใจอย่างมาก แต่ก็พยายามตั้งสติ เพื่อหาทางเอาตัวรอดจากการฆ่าฟันกันตรงหน้า
ภาพสุดท้ายที่จำได้ เธอถูกฉุดลากเพื่อหนีจากการไล่ล่า ความชุลมุนทำให้เธอถูกผลักจนล้มลง ก่อนสติจะลางเลือนจนจำอะไรไม่ได้อีกเลย
เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ที่นี่ที่ไหน เธอมาอยู่ทีนี่ได้ยังไง คำถามวนเวียนในสมองน้อย ๆ
เสียงถอนหายใจจากร่างบางดังขึ้นอีกครั้งในความเงียบ ดวงตาคู่สวยกวาดมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องนอนกว้างที่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา เครื่องเรือนในห้องนอนล้วนแล้วเป็นของที่มีราคาทั้งนั้น
นาฬิกาเรืองแสงล้อมเพชรเรือนเล็กบนข้อมือเรียวถูกยกขึ้นมาเพื่อดูเวลา
“ตี 5” เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นจากริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู นี่เธอหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ ร่างบางที่ยืนเคว้งอยู่กลางห้อง พยายามมองหาประตูทางออก
เมื่อเจอเป้าหมายขาเรียวรีบก้าวไปที่ประตูทันที เสียงขัดใจดังขึ้นในลำคอของหญิงสาวเมื่อประตูที่เห็นเปิดไม่ออก แม้พยายามออกแรงเปิดให้มากขึ้นก็ยังไม่ได้ผล
นั่นทำให้เธอรู้ว่ามันถูกล็อกจากด้านนอก
สัญชาตญาณบางอย่างบอกเธอว่า ใครก็ตามที่จับเธอมาขังไว้ พวกมันย่อมไม่ประสงค์ดีอย่างแน่นอน
หญิงสาวพยายามทำสมาธิ บอกกับตนเองว่ายามคับขันเช่นนี้เธอต้องตั้งสติให้มั่น เธอต้องหาทางออกให้ได้ มันต้องมีทางออก
ร่างเพรียวบางหมุนตัวเดินไปยังอีกด้านของห้อง ที่มีผ้าม่านสีครีมผืนใหญ่ปิดอยู่ เธอรูดผ้าม่านออกจนหมด กระจกใสบานใหญ่ที่ปรากฎตรงหน้าสะท้อนให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายนอกอย่างชัดเจน มือเรียวแตะบนพื้นกระจกใส ด้วยอาการตกตลึงแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง
ประตูกระจกใสถูกเลื่อนออกจากกัน แรงลมด้านนอกพัดเข้ามาปะทะกับร่างบาง ที่ขณะนี้ได้ก้าวเท้ามายืนด้านนอกซึ่งเป็นระเบียงอย่างเต็มตัว
ผมสีน้ำตาลเข้มหยักเป็นลอนยาวถึงบั้นเอวปลิวสยายไปตามแรงลม ใบหน้าเรียวได้รูปแหงนเงยขึ้นมองด้านบน แสงของดวงดาวกระพริบระยิบระยับ กระจายเต็มท้องฟ้ายามรัตติกาล
เบื้องหน้าของเธอมองไกลออกไป มันคือแผ่นน้ำสีดำที่เคลื่อนพริ้วไหวเป็นระลอก เสียงคลื่นทะเลดังทั่วพื้นน้ำ ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ บริเวณที่ยืนอยู่อย่างตกตะลึง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเมื่อรู้ว่าขณะนี้เธอไม่ได้ยืนอยู่บนสิ่งที่ปลูกสร้างบนพื้นดินเหมือนเมื่อตอนหัวค่ำ แต่กลับยืนอยู่บนเรือลำใหญ่ซึ่งกำลังแล่นอยู่กลางทะเล
ไม่มีทางหนี ไม่มีทางออก
ร่างเพรียวบางก้าวช้า ๆ ดั่งถูกมนต์สะกดไปจนสุดเขตระเบียงกว้าง มือเรียวกำแน่นที่ราวระเบียง ดีที่มันเป็นสแตนเลสชั้นดี เพราะหากมันเป็นแก้วคงจะแหลกละเอียดคามือเป็นแน่ ลมทะเลที่พัดมาปะทะกับผิวกายขาวนวลเนียนยามนี้ มันช่างให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกเข้าไปถึงข้างในกระดูกซะจริง ๆ
ดวงตาคู่งามหลับลงช้า ๆ หวังในใจว่าขอให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน เธอฝันไป เธอฝันไป