บูรณาพาดวงยิหวามาที่คอนโดของบูรพา เธอกดสัญญาณอยู่ที่หน้าห้องและให้ดวงยิหวายืนรออยู่ด้านข้าง เธอรอจนกระทั่งประตูเปิดออก แต่คนที่มาเปิดนั้นกลับเป็นธนนท์หนึ่งในเพื่อนของพี่ชายเธอเอง บูรณามองอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ ก่อนจะถามในสิ่งที่เธอสงสัยกับอีกฝ่าย
“พี่นนท์ พี่มาทำอะไรที่นี่คะ”
ธนนท์ที่ยังอยู่ในอาการเมาค้าง ก็ยิ้มแล้วตอบไป “อ๋อ.. เมื่อคืนมีปาร์ตี้กันน่ะ ก็เลยค้างกันที่นี่”
“เฮียอยู่ข้างในใช่ไหมคะ” บูรณาทำหน้าเครียด ในขณะที่คนยืนอยู่ข้างๆก็เริ่มหน้าเสียมากขึ้น
“อยู่สิ ก็อยู่กันหลายคนแหละ ไอ้ซีก็อยู่” ด้วยความไม่รู้เรื่องอะไร ธนนท์ก็บอกออกไปแบบนั้น
แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจจนหน้าเสีย เพราะอยู่ๆดวงยิหวาที่ยืนแอบอยู่ข้างๆ ก็ก้าวออกมาตรงหน้า ดวงตากลมโตคู่นั้นเริ่มมีหยาดน้ำตาที่เคลือบอาบอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง จวนเจียนจะไหลลงมาในอีกไม่ช้า
“น้องหว้า” ธนนท์ตกใจมากที่เห็นดวงยิหวามาด้วย เขาทำท่าอึกอักและพยายามที่จะยืนขวางประตูเอาไว้
แต่บูรณารู้ทันทุกอย่าง เธอดันร่างสูงใหญ่ของธนนท์ให้พ้นทาง ก่อนจะคว้าข้อมือของดวงยิหวาและเดินนำเข้าไป
เมื่อเห็นสภาพทั้งห้องที่ดูเละเทะ และบรรดากลุ่มเพื่อนของพี่ชายที่ยังนอนไม่ตื่นอีกหลายคน แต่มีสองห้องที่ยังคงปิดประตูสนิท หนึ่งในห้องนั้นเธอรู้ว่ามันเป็นของพี่ชาย แต่อีกห้องให้เดาก็น่าจะเป็นของจอมเทียน เพราะเธอไม่เห็นเขาอยู่ตรงนี้
บูรณาตรงไปที่ห้องของพี่ชายก่อนจะเปิดประตูเข้าไป โดยที่ไม่ส่งเสียงขออนุญาตใดๆทั้งสิ้น และภาพที่อยู่ตรงหน้านอกจากจะทำให้บูรณาตกใจ ธนนท์ที่พยายามจะห้ามก็ต้องหน้าเสีย ก็ยังมีอีกหนึ่งคนที่รู้สึกยิ่งกว่านั้น
ดวงยิหวาถึงกับตัวชา มือเย็นและใจสั่น เธอยืนขาตายอยู่กับที่ กับภาพตรงหน้านั้นที่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ มีชายหญิงสองคนนอนกอดก่ายกันด้วยสภาพที่ล่อแหลม และภายใต้ผ้าห่มนั้นไม่ต้องคาดเดาก็รู้ ว่าพวกเขาอยู่ในสภาพแบบไหน
“เฮีย!”
เสียงของบูรณานั้นดังมาก เธอตะโกนเรียกพี่ชายเสียงดังจนบูรพาเริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น และน่าแปลกที่สายตาของเขาที่จับภาพได้ก่อนเป็นอันดับแรกคือ ใบหน้าของดวงยิหวา
วูบหนึ่งที่เขารู้สึกตกใจ ก่อนจะตามมาด้วยอาการปวดหน่วงที่หัวใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล แต่สุดท้ายบูรพาก็ควบคุมสติตัวเองได้ และเลือกที่จะไม่สนใจกับสิ่งนั้น เขาขยับตัวลุกขึ้นเพราะด้านล่างเขาสวมใส่กางเกงเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบนอนตัวเปล่าอยู่แล้วนั่นแหละ
บูรพาเดินมาประจันหน้ากับดวงยิหวาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งมาก จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากราวกับเย้ยหยันให้กับความโง่ของเธอ แต่แล้วบูรณาก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งกระชากตัวพี่ชายสุดแรง แต่เธอที่ตัวเล็กกว่าเลยทำให้เขาขยับได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอเลยเปลี่ยนไปดึงตัวของดวงยิหวาให้ถอยห่างออกมา แล้วเอาตัวเองไปยืนแทรกอยู่ตรงกลาง มองหน้าพี่ชายอย่างเอาเรื่อง จากนั้นทั้งสองพี่น้องก็เปิดปากเถียงกันไปมา
“เฮียทำแบบนี้ทำไม”
“เฮียทำอะไร”
“ก็ทำแบบนี้ หลอกหว้าทำไม”
เสียงของบูรณาที่ไม่ได้เบาเลยเพราะเจ้าตัวกำลังอยู่ในอารมณ์โมโหแทนเพื่อน ที่ตอนนี้อาจจะช็อคไปแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเธอสัมผัสได้ถึงแรงสั่นน้อยๆที่เดาได้เลยว่าดวงยิหวาคงกำลังร้องไห้อยู่แน่ๆ
และเพราะเสียงของคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่นั้นมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คนอื่นๆเริ่มทะยอยตื่นกัน และก็พากันมามุงดูเหตุการณ์ด้วยความสงสัย แม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นที่ตอนแรกยังนอนหลับอยู่ ก็ลุกขึ้นมานั่งพิงหลังดูเหตุการณ์แบบสบายๆ
“เมย์ไม่คิดเลย ว่าเฮียจะเป็นคนแบบนี้ ทั้งที่หว้ารักเฮียมากนะ”
“รักหรอ.. ไม่ถามเพื่อนดูก่อนล่ะ ว่ารักเฮียจริงๆ หรือว่าแอบรักใครอีกคนด้วย”
ดวงยิหวาตกใจมากที่บูรพาพูดแบบนั้น เธอเข้าใจในความหมายนั้น บูรพาคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงสองใจ ทั้งที่เธอเพียงแค่หวั่นไหวเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเลยสักนิด แต่การกระทำของเขาต่างหากที่มันเรียกว่านอกใจไม่ใช่หรือ ทำไมถึงกลายเป็นว่าเธอเลวกว่าเขาไปได้ล่ะ
“หว้าทำอะไรผิดคะ” ที่สุดเธอก็ถามออกมา เสียงของเธอสั่นเครืออย่างน่าสงสาร แต่บูรพากลับเลือกที่จะมองข้ามมันไป
“เฮียกับเขา..” ดวงยิหวาชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้น ที่กำลังมองมาที่เธอพร้อมทั้งเหยียดยิ้มให้ราวกับเย้ยหยัน
“เขาเป็นแฟนฉัน แล้วจะทำไม”
เขามองหน้าเธอนิ่ง และแววตาคู่นั้นก็มีแต่ความเย็นชาที่ฉายชัดออกมา ผิดกับแววตาของดวงยิหวาที่แสดงถึงความเจ็บช้ำที่ได้ยินเขาบอกมาแบบนั้น
“เธอไม่ได้ผิด และเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันก็คือเกมของฉันกับไอ้ซีเท่านั้น”
ดวงยิหวาถึงกับน้ำตาร่วง เธอไม่คิดว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้ และไม่ใช่แค่ดวงยิหวาเท่านั้น ทุกคนที่ได้ยินก็ดูจะตกใจไม่น้อยเหมือนกัน บางคนก็เพราะยังไม่รู้เรื่อง แต่บางคนที่รู้เรื่องแล้วอย่างธนนท์กลับนิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว
“หมายความว่ายังไงคะ” เธอถามเขาเสียงสั่น ดวงตาที่มองเขานั้นมันเต็มไปด้วยน้ำตามากมายที่ไหลออกมาไม่ได้ขาด
บูรพามองภาพนั้นแล้วนิ่งไปอยู่สักพัก เขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นน้ำตาของเธอ แต่เพราะไม่อยากยอมแพ้ และไม่อยากยอมรับว่าได้เผลอใจหลงรักเด็กสาวไปแล้ว สุดท้ายเลยเลือกที่จะพูดจาทำร้ายเธอไป โดยเลือกที่จะกลบความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้
“ใครที่ทำให้เธอรักได้ก่อน คนนั้นก็ชนะ.. คิดว่าพวกฉันจะชอบเธอจริงๆน่ะหรอ ตลก!”
วินาทีนั้น หัวใจดวงน้อยของดวงยิหวาแตกสลายแทบไม่มีชิ้นดี คำพูดของเขามันชัดเจนทุกคำ และเหมือนคมมีดที่ค่อยๆเฉือนหัวใจของเธอออกทีละน้อย
บรรยากาศโดยรอบทุกอย่างดูเงียบไปหมด หลังจากที่บูรพาพูดแบบนั้นออกมา หลายคนนึกสงสารสาวน้อยขึ้นมาจับใจ เพราะการที่บูรพาพูดต่อหน้าเพื่อนทุกคนแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากการฉีกหน้าเด็กสาวให้ต้องอับอายเลยสักนิด
ดวงยิหวาไม่รู้ว่าตัวเองยืนนิ่งแบบนั้นมานานแค่ไหน เพราะเธอไม่ได้พูดและไม่ได้ถามอะไรออกมาอีกเลย เธอทำแค่เพียงมองหน้าเขาทั้งน้ำตา ความรู้สึกทั้งเสียใจ น้อยใจ และเจ็บใจ เกิดขึ้นปนเปกันไปหมด
และท้ายที่สุด เธอก็เลือกที่จะจดจำใบหน้านั้นเอาไว้ เพื่อให้เป็นสิ่งเตือนใจว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ทำร้ายหัวใจของเธอจนย่อยยับ และนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ก็จะไม่มีดวงยิหวาที่โง่งมคนนั้นอีกแล้ว
“หว้า”
ดวงยิหวาได้ยินเสียงบูรณาเรียก แต่เธอไม่อยากรับรู้และพูดอะไรกับใครอีกแล้ว เธอหันหลังกลับด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง แต่สายตาก็ต้องเจอเข้ากับร่างสูงของใครอีกคนที่ไม่รู้ว่ามายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกทั้งข้างกายของเขาก็ยังมีผู้หญิงที่ยืนเกาะแขนอยู่ข้างๆ สภาพของเขาก็ไม่ได้ต่างจากบูรพาเลยสักนิดเช่นกัน
ดวงยิหวามองเขา.. แต่สายตานั้นกลับเป็นความว่างเปล่า เธอไม่ได้สนใจว่าเขาจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหน ก่อนที่เธอจะเดินผ่านเขาไปราวกับสิ่งไร้ชีวิต
ทว่า.. เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกของจอมเทียน ในตอนที่เขาเผลอยื่นมือออกไปนั้น ตัวของดวงยิหวาก็ได้เดินผ่านพ้นเขาไปแล้ว..