โคตรน้ำยาปรับสภาพยีน เล่ม 10
โคตรน้ำยาปรับสภาพยีน เล่ม 10
秒速九光年
  • 5.00 (1)
  • แฟนตาซี-ไซไฟ
โคตรน้ำยาปรับสภาพยีน เล่ม 10 (ตอนที่ 534-586) ระหว่างที่ชีวิตของเซี่ยเฟยกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาก็ตัดสินใจที่จะใช้กฎแห่งความโกลาหลเปลี่ยนบลัดบิวเทียสให้กลายเป็นอาวุธที่สามารถกลืนกินเลือดของสัตว์ประหลาดเข้าไปได้ การตัดสินใจในครั้งนี้จะเปลี่ยนบลัดบิวเทียสไปยังไง? หลังจากหลุดออกมาจากช่องว่างมิติแล้วเซี่ยเฟยจะไปปรากฏตัวที่ไหน? ชายหนุ่มจะเริ่มเรียนกฎแห่งการกลั่นพลังงานที่เขาได้รับมารึเปล่า? เชิญติดตามได้ภายในเล่ม!!! **Trigger Warning** - การใช้ถ้อยคำหยาบคาย - การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเพศ - มีฉากฆาตกรรม
อ้อมกอดมาเฟียเถื่อน
อ้อมกอดมาเฟียเถื่อน
พันสิงห์
  • Romance Lover
"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
มนตราวายสะ
มนตราวายสะ
Radamanee
  • รักโรแมนติก
เขาโดนทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และได้เด็กน้อยวัยแค่สิบสองขวบช่วยชีวิตเอาไว้ ก่อนจากไปด้วยเกียรติของหัวหน้าเผ่าอีกาเขาทำการตีตราจองและสัญญาว่าจะกลับมารับเธอไปเป็นเจ้าสาวของเขาแน่นอน ใครก็ห้ามแย่ง +++++++++ “คุณเป็นของผม” วายสะที่จำใจถอนจูบออกมากระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากอิ่มที่ดูบวมนิด ๆ จากฤทธิ์จูบ สกุณาที่หายใจหอบลืมตาขึ้นอย่างตกใจ ทั้งจากคำพูดของวายสะและตัวเองที่เผลอโอนอ่อนผ่อนตามเขาไป ก็ต้องหน้าร้อนผะผ่าวเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาสีรัตติกาล จะเบือนหน้าหนีก็ไม่ได้เมื่อใบหน้าของเธอตอนนี้นั้นถูกตรึงด้วยมือใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่พอทำแก้เขินได้คือการหลุบตาลงเท่านั้น “เราเพิ่งเจอกัน ฉันจะไปเป็นของคุณได้ยังไง” หญิงสาวแย้งเสียงแผ่ว “ผมจะกลับล่ะ” วายสะไม่ตอบแต่เลือกที่ปล่อยหญิงสาวและหยิบเสื้อสูทที่พาดไว้บนพนักโซฟา ก่อนเดินออกจากห้องเขาก็ไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนมองเขาตาละห้อย “อย่ามองผมด้วยสายตาอย่างนั้น ไม่งั้นคืนนี้ผมจะนอนเป็นเพื่อนคุณจริง ๆ ด้วย” “ฉันไม่ได้เสียดายซะหน่อย จะกลับก็กลับสิ” คนร้อนตัว ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอพูดความในใจออกไปเสียแล้ว นั่นทำให้วายสะถึงกับเปิดยิ้มกว้าง อดที่จะก้มลงไปจูบ คนปากกับใจไม่ตรงกันเบา ๆ ไปทีหนึ่ง “ฝันดี พรุ่งนี้ผมจะมารับ” ชายหนุ่มบอกหลังจากผละออกจากริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างเสียดายนิด ๆ แต่ก็ต้องยอมตัดใจ เพราะมากกว่านี้เขานี่แหละจะอดใจไม่ไหว “เดี๋ยวสิคะ” เธอดึงชายเสื้อเขาเอาไว้ ขณะที่อีกมือหนึ่งก็เผลอลูบปากที่เพิ่งโดนจูบ “ไม่มีเจ้าอีกาแล้ว ฉันไปเองได้ค่ะ” “ผมไปส่งคุณ ไม่ได้ไปส่งเจ้าอีกา” “แต่ว่า...” หญิงสาวคิดจะแย้ง เพราะเกรงใจ แต่ก็รีบหุบปากฉับเมื่อได้ยินประโยคต่อมาของชายหนุ่ม “ขัดขึ้นอีกทีผมจะไม่กลับแล้วนะ” “ค่ะ” “ค่ะนี่คือ...” วายสะเลิกคิ้ว ใช้มือค้ำพนักโซฟายื่นหน้าเข้าจนเกือบชิดคนที่เขาถามยิ้ม ๆ “คุณกลับไปได้แล้วค่ะ” เพียงเท่านั้นวายสะก็กดจูบที่หน้าผากมนนั้นเบา ๆ เป็นการส่งท้าย แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย นั่นทำให้สกุณาที่ใจเต้นแรงแทบระเบิดถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ฮู่ว์...” แล้วยกมือลูบหน้าลูบตาของตัวเอง ราวกับเรียกสติที่เหลืออยู่ให้กลับมาให้หมด พร้อมกับบ่นพึมพำ “บ้าไปแล้ว เจอแค่ไม่กี่วันโดนปล้นจูบไปละ ถ้านานกว่านี้สงสัยฉันจะโดนปล้นหมดตัวแน่” รวมไปถึงหัวใจด้วย...
เศษใจที่หมดรัก
เศษใจที่หมดรัก
เพชรรุ้งพราย
  • ดราม่าน้ำตาริน
“ถ้าเธออยู่ได้ก็อยู่ไป แต่ถ้าเลิกโง่เลิกหน้าด้านแล้วถอดใจก็ไสหัวไป” “ผู้หญิงคนนั้นมันจมน้ำตายตั้งแต่คุณผลักไสทิ้งเพื่อไปช่วยคนรักของคุณแล้วล่ะ” เพราะความเข้าใจผิดทำให้การแต่งงานที่มีเพียงแค่เธอที่รักเขาฝ่ายเดียวถูกความเกลียดชังเข้าครอบงำจนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจสร้างความเจ็บปวดให้เธออย่างไม่ยุติธรรม แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะยื้อยุดฉุดรั้งเขาเอาไว้ จากที่เคยรักหมดหัวใจเหลือเพียงแค่เศษใจที่หมดรัก จิณณพัต จิตรศิลป์ (จิณณ์) ผู้ชายที่เธอคิดว่าเขามีบุญคุณเพราะเคยช่วยชีวิตในวัยเด็กพอผู้มีพระคุณขอร้องให้แต่งงานกับเขาเธอจึงไม่รีรอหรือปฏิเสธพร้อมอุทิศหัวใจถวายชีวิตให้เพื่อตอบแทนหนี้บุญคุณที่ยังติดค้างในใจ สำหรับเขาแล้วมีเพียงความคั่งแค้นที่สะสมมานานเพื่อตอบแทนอย่างสาสม ธาราทิพย์ มั่นเจริญทรัพย์ (สายน้ำ) ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียไร้ทะเบียนโดยที่เขาไม่คิดจะรักหรือดูแลจึงทำทุกอย่างเพื่อกำจัดเธอออกไปจากชีวิตเพราะมีคนที่รักรอเป็นเจ้าของอยู่แล้ว แต่เขาแทบล้มทั้งยืนเมื่อความจริงกระจ่างภายหลังว่าคนที่เขาเลือกที่จะฝากชีวิตไว้ด้วยกลับกลายคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของผู้เป็นบิดาและเป็นคนที่อยากฮุบสมบัติของตระกูลจิตรศิลป์เสียเองจนในที่สุดเขาก็เสียผู้หญิงอีกคนไปพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในหัวใจ แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อเธอหวนคืนกลับมาอีกครั้งเขาจึงตั้งใจอยากไถ่โทษกับทุกสิ่งที่ผ่านมาเพื่อให้เธอรู้ว่าเขาสำนึกผิดและจะรักจะดูแลเธออย่างดีนับจากนี้ ทว่าทุกอย่างกลับสายเกินไปเมื่อการกลับมาใหม่ของเธอครั้งนี้ทำให้เขารู้ว่าเธอเป็นสายน้ำที่ไม่มีวันไหลกลับแม้เพียงเศษเสี้ยวใจรักของเธอก็ไม่หลงเหลือให้เขาอีกเลย อัคคี ดลวิริยวิทย์ (ไฟ) ผู้ชายซื่อ ๆ ที่แอบรักเธอมานาน ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดจากเธอ เมื่อพบเจอกันอีกครั้งความรู้สึกดี ๆ และปรารถนารักที่ซ่อนเร้นของเขายังเต็มเปี่ยมด้วยความร้อนแรง เป็นคนที่ทำให้สายน้ำเยือกเย็นดุจน้ำแข็งทะลุจุดเดือดและหลอมละลายจนพบกับจุดหมายปลายทางอันแสนงดงาม เพชรน้ำหนึ่ง จิโนวัตร (น้ำเพชร) นางแบบเบอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย ชอบความสุขสบายและถูกใจจิณณพัตมานานก่อนจะเข้าหาและกลายเป็นคนที่จิณณพัตเลือกว่าจะลองคบหาในฐานะแฟนแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นดั่งใจเมื่อนายจินตรัยประกาศกร้าวว่าจิณณพัตต้องแต่งงานกับธาราทิพย์เท่านั้น เขาเป็นผู้ชายของเธอ คนอื่นจะมาชุบมือเปิบไปแบบหน้าด้าน ๆ ไม่ได้ เธอจะทำทุกวิถีทางและต้องได้เขากลับคืนมาเป็นของตัวเอง
เพลิงพนัส
เพลิงพนัส
B.J.BEN
  • Romance Lover
การได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรกทำให้กลีบบัวถึงกับเกร็ง ใบหน้าของเขาบึ้งตึงกระด้างจนเธอตกประหม่า กลีบบัวที่ออกมาในชุดเจ้าสาวไทยประยุกต์สวยจนทำให้ทุกคนตกตะลึง พนัสเองยังต้องชะงัก แต่พอคิดถึงความใจร้ายขี้อิจฉาของคนตรงหน้า ใบหน้าของเขาก็กระด้างในทันที พิธีทุกอย่างดำเนินไปอย่างถูกต้อง เจ้าบ่าวสวมแหวนให้เจ้าสาว เจ้าสาวสวมแหวนให้เจ้าบ่าว ก่อนที่เจ้าบ่าวจะดึงเจ้าสาวไปจูบแบบไม่ทันตั้งตัว กลีบบัวรัวกำปั้นใส่แผ่นหลังของพนัสเต็มแรงอย่างตกใจ แขกผู้ใหญ่และคนในงานตกตะลึง ในขณะที่รวิดามองตาปริบ ๆ ไม่คิดว่าพนัสจะจูบลูกสาวคนโตของนางอย่างป่าเถื่อนเช่นนี้ ช่างภาพก็เก็บภาพบรรยากาศละเอียดทุกช็อตแบบไม่ให้พลาดสักมุมเดียว ทุกคนในงานร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่กลีบบัวหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู มองหน้าเจ้าบ่าวแสนป่าเถื่อนที่มองเธอด้วยสายตาลามเลียอย่างรังเกียจ จบพิธีคืนสินสอดเธอจะได้หมดเวรหมดกรรมกับผู้ชายที่ชื่อพนัสสักที
เฮียพัน
เฮียพัน
B.J.BEN
  • Romance Lover
ดารินคิดว่าเธอคือส่วนเกินของครอบครัวเสมอ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่ใช่พี่สาวที่น่ารักอย่างมิริน เธอมันเด็กดื้อ แต่เขาก็ทำให้เธอได้รู้ว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้มันเปลี่ยนแปลงกันได้ ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนมันอาจจะไม่ได้ก่อเกิดความรักขึ้นมาเหมือนในนิยายประโลมโลกที่เธอเคยอ่าน แต่เธอกลับผูกพันกับเขาตั้งแต่ที่เขาตามไปดูแลเธอที่โรงเรียนประจำตลอดหลายปี จนเรียนมหาวิทยาลัยต่างหากล่ะ พี่ชายเพียงคนเดียวที่มาหาเธอก่อนเสมอ ไม่ว่าเธอจะทุกข์หรือสุข ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “รินไม่ใช่กาฝากหรือส่วนเกิน แต่การแสดงออกของรินไม่เหมือนกับมิริน รินดื้อกว่ามิรินหลายเท่า และต้องยอมรับว่าเรื่องแม่ของรินก็มีผลต่อความรู้สึกของทุกคนในครอบครัวด้วย แต่เนื้อแท้แล้วไม่มีใครเกลียดริน หรือคิดจะทิ้งขว้างรินเลย เฮียโยเคยพูดกับเฮียว่าบางทีอาจจะคิดผิดก็ได้ที่ส่งรินไปอยู่โรงเรียนประจำ ทำให้รินรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง หรือหว้าเหว่าแบบนี้ เฮียขอเป็นตัวแทนของทุกคนในครอบครัวขอโทษรินจะได้ไหม รินจะให้อภัยพวกเราได้ไหม” ประโยคของพายุทำให้ดารินร้องไห้อย่างหนัก เธอร้องไห้ไม่ยอมหยุด สะอึกสะอื้นจนพายุต้องเดินเข้าไปหาเพื่อปลอบโยน ดารินโผเข้ากอดพายุเต็มอ้อมแขน กำแพงสูงเสียดฟ้าที่ถูกก่อขึ้นสูงทลายลงในพริบตา “ริน ฮือ ๆ ๆ” ดารินกอดเอวหนาของพายุเอาไว้ ร้องไห้ไม่ยอมหยุด พายุไม่ได้ห้ามปรามอะไร ปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจ บางทีปัญหาที่เกิดขึ้น เพียงแค่ได้พูดคุยทุกอย่างก็คลี่คลาย ถ้ามัวแต่ประชดประชันใส่กัน ก็มีแต่จะเจ็บปวดหัวใจและเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ดารินรู้สึกว่าตัวเองนอนหลับไปอย่างผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายปี เพียงแค่ได้เปิดใจคุยกับพายุ
นางโลมพรหมจรรย์
นางโลมพรหมจรรย์
ปั้นฟ้า
  • รักโรแมนติก
จางลี่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่บนเตียงในห้องพักรับรองแขก นางกุมมือเข้าหากันแน่น หัวใจเต้นระทึก สมองกำลังครุ่นคิดเพื่อหาทางเอาตัวรอด จะทำเยี่ยงไรดีจางลี่ นางถามตัวเองในใจ สติสั่งให้นางยังนั่งสงบเงียบเอาไว้ให้มากที่สุด นึกย้อนไปถึงก่อนหน้านั้น ก่อนที่นางจะถูกหลอกมาขายหอนางโลม นางเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ มีฐานะ ชาติตระกูลที่ดี ถ้าหากบิดาไม่เสียชีวิต และมารดาเลี้ยงคิดร้าย นางคงได้แต่งงานกับคู่หมายและออกเรือนไปแล้ว แม้จะไม่ได้เจอคู่หมั้นของตัวเองนานแล้ว แต่จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เคยเจอกัน ก้งเยว่เป็นคู่หมั้นที่น่ารัก ปกป้องและดูแลเธอตั้งแต่เด็ก เสียงประตูห้องที่เปิดเข้ามากระชากเอาความคิดมากมายในหัวของจางลี่ออกไป นางไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องพัก แต่ร่างสูงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าต่างก็ทำให้นางต้องเงยหน้ามอง เขาไม่เห็นดวงหน้าของนางเพราะมีผ้าปกปิดเอาไว้ แต่นางสามารถมองผ่านเนื้อผ้าบางเบาไปเห็นเขาได้ เขาหันมามอง นั่นทำให้จางลี่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของแขกคนแรกของเธอได้อย่างชัดเจน นั่นทำให้ดวงตาของนางเบิกกว้าง ตั้งแต่โดนหลอกมาขาย นางก็ไม่เคยโวยวายให้ตัวเองต้องเจ็บตัว แต่พยายามเอาตัวรอดแกล้งป่วยมาหลายวันจนวันนี้ต้องรับแขก แม่เล้าคนงามนามว่าอ้ายเหม่ยมีวิธีการพูดจาที่โน้มน้าวให้นางขายตัว แต่จางลี่ไม่ได้คล้อยตาม แกล้งทำเป็นเออออไปแบบนั้นเอง “พระจันทร์คืนนี้สวย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้จางลี่ขยับตัวเล็กน้อย พิศมองใบหน้าของหนุ่มรูปงามอีกครั้ง ชายหนุ่มตรงหน้ามีใบหน้าสวยยิ่งกว่าอิสสตรีเสียอีก หากว่าเขาแต่งเป็นหญิงน่าจะงามกว่าหญิงเสียอีก “เจ้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร” ก้งเยว่เอ่ยถาม โบกพัดในมือไปมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของเขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ และไม่ได้มีอาการกระเหี้ยนกระหืออยากจะเที่ยวหอนางโลมเหมือนชายอื่นที่เคยเห็น เข้ามาในห้องก็เอาแต่มองพระจันทร์ เดินไปเดินมาแล้วก็ชวนคุยอย่างเป็นกันเอง อารมณ์ของเขาดูสุนทรีย์เหลือเกิน
เล่ห์เถื่อนเพลิงเสน่หา
เล่ห์เถื่อนเพลิงเสน่หา
B.J.BEN
  • Romance Lover
เพราะหลานชายผิดหวังในความรักจนไม่อยากมีเมียอีก ธารจึงต้องหาผู้หญิงสักคนมาอุ้มท้อง เพื่อให้มีทายาทสืบสกุล แต่พ่อหลานชายตัวดีเกลียดผู้หญิงเข้าไส้ แล้วท่านจะทำอย่างไรดี ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “โอ๊ย! คุณทิวเขา หนึ่งเจ็บนะคะ” เธอร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนเขาผลักเข้ามาในกระท่อมจนร่างเซล้มลงกับพื้นกระท่อมไม่เป็นท่า “ปั๊มลูกกัน” คนห่าม ๆ ทำเอาเธออ้าปากค้างตาโต “คุณทิวเขา คุณพูดอะไรคะนี่” “ก็คุณป้าบอกให้มีลูก เราก็มีลูกให้ท่านกัน นี่ฉันช่วยเธอหาเงินแล้วไง” “ไม่นะคะ” หนึ่งธิดากรีดร้องสุดเสียง แต่ทิวเขาไม่ได้สนใจ เขากดร่างเธอไปบนเตียงกว้าง ก่อนจะซุกหน้าเข้าไปหา เธอตัวสั่น พยายามดิ้น มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ถ้าเขายังไม่พร้อมและเธอยังไม่เต็มใจ ก็ควรที่จะคุยกันด้วยดี ธารเองก็ไม่ได้บังคับเขาหรือบังคับเธอ ท่านแค่เสนอตามประสาคนป่วยที่อยากอุ้มหลานสักคนเท่านั้น ดูเหมือนว่าความคิดมากมายในหัวของเธอจะถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว แคว่ก! เสียงเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นทำให้เธอกรีดร้องสุดเสียง แต่เขาตะปบปิดปากของเธอเอาไว้ “เธอจะกรีดร้องให้คนในไร่แห่กันมาดูเหรอว่าเราทำอะไรกันอยู่” ประโยคของเขาทำให้เธอส่ายหน้าไปมา คนป่าเถื่อนเช่นเขาไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ ๆ หนึ่งธิดาหัวใจเต้นรัวเร็ว เธอพยายามหาทางเอาตัวรอด แต่คิดจนสมองแทบแตกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าหนีไม่รอดก็ต้องพูดให้เขาใจเย็นลงกว่านี้ เธอไม่อยากโดนเขาข่มขืนในวันแรกของการตกเป็นเมียเขาหรอกนะ เมื่อเธอสงบลงเขาก็ปล่อยมือจากปากน้อยของเธอ “ถ้าหนึ่งยอมคุณ คุณจะไม่ทำรุนแรงใช่ไหมคะ” ประโยคต่อรองของเธอ ทำให้ทิวเขาหัวเราะลั่นกระท่อม เขามองเธออย่างเหยียดหยาม นั่นทำให้หนึ่งธิดาหน้าชา “คุณหัวเราะอะไรคะ” “ฉันมองคนไม่ผิดจริงๆ แกล้งทำเป็นดีดดิ้นไม่อยาก แต่สุดท้ายเธอก็อยากให้ฉันเอา จะได้มีลูก จะได้ท้อง จะได้ฮุบสมบัติของคุณป้า” “หนึ่งไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะคะ” “อย่ามาโกหกหน้าตาย ฉันเคยเห็นผู้หญิงโกหกหน้าตายแบบเธอมาแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะว่าเธอใช่เล่ห์เหลี่ยมออดอ้อนขอทรัพย์สินของคุณป้าครึ่งหนึ่งหลังจากยกให้การกุศล ฉันเป็นหลานชายของท่านทั้งคน แต่คุณป้าคิดจะยกสมบัติให้การกุศล ยกสมบัติให้เธอ เป็นเรื่องตลกสิ้นดี” เขาหัวเราะออกมา ทำให้หนึ่งธิดาหน้าชาหนักกว่าเดิม “หนึ่งไม่เคย” “เลิกโกหกแล้วมาทำลูกกันให้สมใจเธอกับคุณป้าจะดีกว่า แต่อย่าหวังเลยนะว่าฉันมีลูก ฉันจะให้เธอแตะต้องลูกอีก ลูกของฉันจะต้องไม่มีแม่หิวเงินอย่างเธอ”
อุ้มรักเมียลับเศรษฐีเถื่อน
อุ้มรักเมียลับเศรษฐีเถื่อน
B.J.BEN
  • Romance Lover
ในวันที่เธอกำลังตั้งครรภ์ชีวิตน้อยๆ อันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขากลับไล่เธอออกจากชีวิตเหมือนผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง เธอรักเขานั้นคือเรื่องจริง แต่เขานั้นรักเธอจริงตามปากพูดไหม เธอชักไม่แน่ใจ เพราะแค่ความไว้วางใจที่จะสืบหาความจริงเขากลับไม่ทำ เธอทิ้งทุกอย่างเพื่อยอมเป็นเมียลับให้แก่เขา ยอมให้แม่และน้องของเขาโขกสับสารพัด หากเขาไม่เห็นค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาไม่เหลียวหลัง แต่หากในวันที่เธอเข้มแข็ง ยืนหยัดได้ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมขอโอกาส และครั้งนี้เธอไม่ใช่คนที่เป็นฝ่ายถูกเลือก แต่เธอจะเป็นฝ่ายเลือกว่าจะตัดสินใจเช่นไร และเธอจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอเป็นครั้งที่สองอีก ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “มีที่หมายใหม่เร็วดีนะ นายเข้มคงชั่วคราวเพราะไม่รวยเท่านายพีรพลอะไรนั่นสินะ” ประโยคที่พูดขึ้นลอย ๆ ทางด้านหลังทำให้เธอหันขวับไปมอง ก่อนที่พรนัชชาจะเดินหนีออกไปจากหน้าห้องน้ำ ไม่อยากเสวนากับคนแบบเขาอีก แดนไทยตามมากระชากแขนของเธอเอาไว้ พรนัชชาก็สะบัดจนหลุด “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” ประโยคแสนห่างเกินนั้นทำให้แดนไทยหน้าตึง “ทำไมพูดกับผัวเก่าห่างเหินขนาดนั้นล่ะ” แดนไทยเอ่ยถามอย่างเยาะหยัน “ก็แค่ผัวเก่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” เธอตอกกลับพลางเชิดหน้าขึ้น อย่างเย่อหยิ่ง แดนไทยถึงกับชะงักไป เพราะเธอดูเปลี่ยนไปมาก “ตกลงจะเอาคนนี้เหรอ แต่จริง ๆ ฉันก็รวยไม่แพ้นายพีนี่นะ ถ้ายอมมาเป็นนางบำเรอของฉัน ฉันจะให้มากกว่ามัน ให้แบบถึงใจทั้งเรื่องเงินและเรื่องบนเตียง ไม่ต้องลักลอบไปหานายเข้มอีก” เพี้ยะ!!! เสียงเพี้ยะดังขึ้น ใบหน้าของแดนไทยหันไปตามแรงตบ “นี่เธอกล้าตบฉันอย่างนั้นเหรอ” “นี่ยังน้อยไปกับปากโสโครกอย่างคุณ ฉันตัดสินใจถูกแล้วที่เดินออกมาจากชีวิตของคนที่ไม่เห็นคุณค่าของฉัน คุณรู้จักฉันมานานหลายปีแล้วแต่คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอคุณแดนไทยว่าฉันเป็นคนยังไง” “ฉันเคยคิดว่าเธอดีไง เลยเชื่อว่าเธอเป็นคนดี แต่ใจของคนเรายากแท้หยั่งถึง ความดีที่แสดงออกมาอาจจะเป็นการเสแสร้งแกล้งทำก็ได้ไม่ใช่เหรอ ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น ถ้าฉันไม่เชื่อนี่แหละแสดงว่าฉันทั้งบ้าและโง่”
แม่ของหนูเป็นเมียลับของคุณพ่อ
แม่ของหนูเป็นเมียลับของคุณพ่อ
B.J.BEN
  • Romance Lover
เธอเป็นพยาบาลสาวที่ดูแลคุณแม่ของเขา ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยว่าแม่ของเขาบังคับให้เขาแต่งงานกับเธอ เขาจึงโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเธอ เธอยุแยงมารดาของเขาเพราะอยากจะฮุบสมบัติเลยอยากเป็นเมียของเขาจนตัวสั่น เขาจึงจะต้องจัดการผู้หญิงหิวเงินอย่างเธอ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน บัวชมพูเดินออกมาด้านนอก เพื่อจะถามว่าเพชรต้องการอะไรบ้าง เธอจะได้จัดการให้เขา แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็เดินเซ ๆ เข้ามาหาแถมยังทำท่าจะล้ม เธอจึงต้องรีบเข้าไปประคองเขาเอาไว้ กลิ่นเหล้าฉุนกึกกับการกอดรัดที่แน่นถนัดของเขาทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนี “คุณเดินไหวไหมคะ” เธออยากทิ้งให้เขานอนอยู่ตรงนี้ แต่ทำไม่ได้เพราะเขาเมามาก ขืนนอนอยู่ตรงนี้คงจะโดนยุงรุมกัดเป็นไข้เลือดออกแน่ ๆ รับปากคุณพาลินเอาไว้แล้ว เลยต้องประคองเขาไปที่ห้องแทน “คราย...” คนเมาเอ่ยถาม พลางหรี่ตามอง “บัวเองค่ะ คุณเพชรเดินดีๆ หน่อยสิคะ” เธอประคองเขาด้วยอาการทุลักทุเลเต็มที เขาก็กอดรัดเธอแน่นขึ้นเมื่อเธอพาเขามาจนถึงห้องพัก “ว้าย! คุณเพชร คุณจะทำอะไรคะ” บัวชมพูตกใจเมื่อเพชรกดเธอไปกับเตียงนอนกว้างของเขา ก่อนจะขยับกายขึ้นทาบทับ “คิดว่าผมจะทำอะไร คุณอยากเป็นเมียผมมากนักไม่ใช่เหรอ” “คุณพูดอะไรของคุณ นี่ปล่อยนะคะ ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เธอพยายามดิ้นรนแต่เขาไม่ยอมปล่อยซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอหอมกรุ่น เธอก็รัวกำปั้นใส่เขาไม่ยั้ง “แกล้งทำเป็นดีดดิ้นอยากให้ผมทำแบบนี้อยู่แล้วใช่ไหม” เขากดเธอไปกับเตียงนอนกว้าง โดยการสอดมือเข้าไปในอุ้งมือน้อยของเธอ “นี่คุณปล่อยนะ ถ้าคุณไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วยจริง ๆ ด้วย” “ก็ร้องสิ” เขาอุดปากเธอเอาไว้ ก่อนจะกระชากเน็กไทออกมามัดปากของเธอเอาไว้ บัวบูชาได้แต่ดิ้นรนไปมา ไม่คิดว่าจะเสียท่าเขาแบบนี้