บทนำ
น้ำอิงหอบหิ้วกระเป๋าพะรุงพะรังเดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาออก สนามบินเชียงใหม่ เด็กสาวชะเง้อมองหาคนที่จะมารับแต่ก็ไม่เห็นใคร ทั้งที่พี่สาวสุดรักเพียงคนเดียวก็เพิ่งคุยกันเมื่อวานว่าจะมารับเอง
ทันใดเสียงโทรศัพท์มือถือคู่กายก็ดังขึ้น ในขณะที่น้ำอิงกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย สายตาก็สอดส่ายไปในที่ต่างๆ
"น้ำอิง วันนี้พี่ไปรับหนูไม่ได้ แต่ส่งพี่เขยไปรับแทนนะ"
"อ้าว ทำไมล่ะจ๊ะพี่อบ"
"พอดีหลานท้องเสีย เลยพามาโรงพยาบาล หมอให้น้ำเกลืออยู่ พี่เองต้องอยู่เฝ้าลูก ไม่ว่าพี่นะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ หนูรอพี่เขยก็ได้ แล้วหลานเป็นอะไรมากไหมอ่ะคะ”
“ก็เพลียเลยแหละ ต้องให้น้ำเกลือ”
พอวางสายจากพี่สาว ก็พอดีมานพซึ่งเป็นพี่เขยก็มาถึงในจังหวะน้ำอิงวางสาย
"น้ำอิง พี่ขอโทษนะที่ให้รอนาน น้ำอบโทรหาหนูแล้วใช่ไหม"
"ไม่นานหรอกค่ะพี่นพ พี่น้ำอบโทรมาบอกแล้ว หลานเป็นยังไงบ้างคะ"
"ถึงมือหมอแล้วคงไม่เป็นไร ก็ให้น้ำเกลือกันไป"
"ดีค่ะ ไม่เป็นอะไรมาก พอทราบข่าวตอนแรกหนูก็ตกใจหมด"
"อากาศมันร้อน เดี๋ยวนี้คนท้องเสียกันเยอะ ต้องระวังสุขภาพกันมากๆ "
"ใช่ค่ะ นี่กะว่ามาเที่ยวเชียงใหม่จะเจออากาศดีๆ คงไม่ใช่แล้วสินะคะ"
"เมษา ที่ไหนก็ร้อนทั้งนั้นล่ะ แล้วน้ำอิงจะอยู่นานไหม"
"อยู่เที่ยวจนพอใจล่ะค่ะ หนูยังไม่อยากทำงาน"
"ก็ดีครับ มีที่เที่ยวเยอะ เที่ยวให้เต็มอิ่มไปเลย มาทั้งที"
"แต่ ก็เกรงใจพี่นพอยู่เหมือนกันนะคะ มาวันแรกหลานก็ไม่สบาย พี่ๆ ก็คงยุ่งกันมาก"
"ไม่หรอก แม่เขาดูแลได้ ประเดี๋ยวก็มีพีเลี้ยงอยู่เป็นเพื่อน แต่น้ำอบเขาห่วงลูกมากเลยนอยด์"
มานพพูดคุยกับน้องเมียอย่างมีความสุข ไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร น้ำอิงเหมือนดอกไม้บานที่มีความสดชื่นตลอดเวลา เขารู้สึกว่าพอเจอหน้าน้องเมียคนนี้ มันช่างเหมือนได้กลิ่นกุหลาบแรกแย้มยังไงอย่างนั้น
รอยยิ้มของเธอทำมานพใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก เขาตั้งใจพาน้องเมียแวะทานข้าวก่อนเข้าบ้าน
พ่อเสือร้ายวางแผนทันทีตั้งแต่แรกเจอน้ำอิงที่สนามบินเลยทีเดียว
♦♦..........♦♦..........♦♦