เพราะเธอเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงเขา

เด็กสาวที่เขาเคยคิดว่าเป็นลูกของแม่บ้าน กลับกลายมาเป็นสมาชิกอีกคนในครอบครัว เขาจึงตั้งแง่จงเกลียด จงชัง

วาทิตย์ ลูกชายคนเล็กของบ้าน บดินทร์บริรักษ์ อายุ 26 ปี ผู้ที่เป็นว่าที่ ผู้สืบทอดมรดกหลายหมื่นล้าน ทายาทมหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจ บดินทร์กรุ๊ป ที่มีธุรกิจมากมายและเป็นเจ้าของห้างดัง รวมทั้งโรงแรมหรู 5 ดาวที่มีสาขาทั้งในและต่างประเทศ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลา ราวกับฟ้าประทาน ด้วยส่วนสูง 178 เซ็นติเมตร นัยตาสีน้ำตาลเข้ม ดูน่าเกรงขาม คิ้วเข้มหนาสอดรับกับดวงตารี จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเฉียบ ทั้งรูปร่างและหน้าตาราวกับเทพเจ้ากรีกโบราณปั้นแต่ง เพียงเท่านี้ชายหนุ่มก็เป็นที่หมายปองของสาวน้อย สาวใหญ่ ทั้งนางแบบ เซเล็ป ดารา ต่างก็วนเวียนมาให้เชยชม ไม่เคยขาด

นับดาว สาวน้อยลูกสาวแม่บ้านที่พ่วงตำแหน่งแม่เลี้ยงลับๆของเจ้าของทายาทหมื่นล้าน ผู้เคยตกหลุมรักเด็กชายวาทิตย์ เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและแสนจะใจดี ในวันที่เข้ายังไม่รู้ความจริงว่าเธอและแม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาด้วย จากที่เคยเอ็นดู ก็กลับกลายเป็นถูกเกลียด เด็กหญิงนับดาว เด็กน้อยตาโต นัยตาแวววาวราวกับดวงดาวยามค่ำคืน ในวัย 8 ขวบไม่เข้าใจในความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่และการเปลี่ยนไปของพี่ชายที่แสนดี แต่ความรักที่เคยมียังคงมั่น เช่นเดิม

วายุ พี่ชายของวาทิตย์ อายุ 34 ปี นายตำรวจหนุ่มผู้อบอุ่น จริงใจ แต่แฝงไปด้วยบุคลิกเข้มแข็ง มุ่งมั่น เขาเลือกที่จะเดินบนเส้นทางที่รัก มากกว่าที่จะเลือกมาเป็นผู้บริหารธุรกิจอย่างบิดาและน้องชาย ถึงแม้ว่าจะมีปัญหากับบิดาในช่วงแรก แต่ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องยอมรับในการตัดสินใจของลูก

เจ้าสัวคณิน บดินทร์บริรักษ์ ผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงธุรกิจ มีคนนับหน้าถือตามากมาย เป็นผู้มีบุคลิกเด็ดเดี่ยว แต่ก็มีความเมตตาอยู่ไม่น้อย ท่านจึงรักและเมตตานับดาว ช่วยส่งเสียเลี้ยงดู ให้การศึกษาและดูแลแม่ของเธอด้วย

เดือนเพ็ญ แม่หม้ายสาวที่มีลูกติด บังเอิญพบรักกับเจ้าสัวคณิน จนได้ย้ายเข้ามาอาศัยใบบุญของท่านเจ้าสัวในคฤหาสแห่งนี้ และช่วยดูแลความเรียบร้อยทุกๆอย่างภายในบ้าน รักและเอ็นดูบุตรชายทั้ง 2ของท่านเจ้าสัว เหมือนลูกของตัวเอง

.........................................

" เธอกับแม่เธอนี่มันเหมือนเห็บ หมัดที่เกาะครอบครัวฉันไม่ไปไหนเลยนะ กี่ปีมาแล้วที่ฉันอุตส่าห์หนีไปอยู่ต่างประเทศพวกเธอก็ไม่ยอมไปไหน"

วาจาเผ็ดร้อนที่ไม่น่าออกมาจากปากของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความรังเกียจ ทำให้คนฟังถึงกับน้ำตาตกใน

เพี้ยะ!!!! เสียงฝ่ามือเล็กกระทบใบหน้าข้างหนึ่งของชายหนุ่ม จนหน้าของเขาหันไปตามแรงมือ

" คุณจะดูถูกฉันยังไงก็ได้ แต่ฉันไม่ยอมให้คุณมากล่าวหาแม่ของฉันเด็ดขาด"

หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

" เธอกล้าตบฉันงั้นหรอ ยัยเด็กบ้า รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปซะแล้ว"

พูดจบชายหนุ่มก็กระชากแขนหญิงสาวเข้ามาปะทะอกแกร่ง มือข้างหนึ่งสอดเข้าท้ายทอยเพื่อให้หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นรับจูบลงทัณฑ์ โทษฐานที่กล้าฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าหล่อๆของเขา จากที่แค่จะจูบเพื่อลงโทษหญิงสาว กลับกลายเป็นเขาเองที่ต้องใจเต้นแรง ริมฝีปากอิ่ม ที่ดูจิ้มลิ้ม หวานละมุน อืมม...หวานมาก หวานกว่าริมฝีปากที่เคยลิ้มลอง ริมฝีปากชมพูของหญิงสาวที่อยู่ในอารามตกใจจนเผลอเผยอปากทำให้เปิดโอกาสให้ลิ้นร้ายของชายหนุ่มแทรกเข้ามาลิ้มชิมรสหวานได้ง่ายยิ่งขึ้น อื้ออออ อืออ เสียงหวานร้องครางประท้วง หมัดเล็กๆทุบลงบนอกแกร่ง ราวกับหินผา มีหรือที่ชายหนุ่มจะสะทกทะท้านเขายังคงครอบครองปากอิ่มนุ่นนิ่ม มือหนายกขึ้นจับมือเล็กที่คอยประท้วง รวบสองมือบางไว้ด้านหลังด้วยมือเดียว ส่งผลให้หน้าอกอวบปะทะกับอกแข็งแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก เมื่อสัมผัสได้ว่าสาวน้อยในอ้อมแขน เริ่มขาดอากาศหายใจเพราะรสจูบเผ็ดร้อนของเขา

" ถึงกับหอบเลยหรอ ป่านนี้คงแฉะหมดแล้วสินะ คนอย่างเธอนี่มันร่านดีจริงๆ คราวนี้ฉันแค่ทดสอบสินค้า แต่ถ้าเธอยังหน้าด้านอยู่บ้านหลังนี้อีก ฉันไม่หยุดแค่นี้แน่"