ชาติก่อนตายแล้วก็คิดว่าตัวเองจะได้ไปสบายแล้วแท้ ๆ แต่กลับถูกส่งมาเกิดใหม่เสียได้ แล้วยังเกิดมาเป็นทายาทรุ่นหลังของตัวเองใน 400 ปีต่อมาอีกต่างหาก มันอะไรกันเนี่ย!?
ในยุคนี้การที่มนุษย์มีพลังพิเศษถือเป็นเรื่องปกติ แต่พลังพิเศษของฉันดันเพิ่งมาปรากฏตอนอายุ 20 เนี่ยมันไม่ปกติ! แล้วต้องมารับรู้ว่าองค์กรสุดที่รักที่ฉันตั้งใจก่อร่างสร้างขึ้นมาเลือดตาแทบกระเด็นเมื่อชาติก่อน กำลังถูกทายาทที่แสนชั่วช้าของตัวเองทำให้แปดเปื้อนก็แทบกระอัก
หน็อย…คอยดูเถอะพวกแก! รอฉันก่อร่างสร้างพลังอำนาจให้ตัวเองก่อนเถอะ ถึงทีฉันลงมือได้เมื่อไหร่ ดูซิว่าบรรพบุรุษคนนี้จะจัดการพวกแกยังไง!!!
----------------------------------------
บทนำ
‘ในที่สุดก็ทำได้แล้ว...ฉันทำสำเร็จแล้ว...’
‘เดอะนอร์ที่ฉันทุ่มเทตั้งใจก่อตั้งขึ้นมา...ได้ช่วยเหลือผู้คนบนโลกนี้ไปมากมาย...’
‘เหล่าผู้คนที่มีความฝัน มีความหวัง มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างฝัน ต่างได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ให้โลกใบนี้ ได้ทำความปรารถนาของตัวเองให้กลายเป็นจริงได้ในที่สุด’
‘ฉันมีความสุขมากจริง ๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มจากหัวใจของพวกเขา เห็นความสุขสมหวังในดวงตาของพวกเขา มันทำให้ฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า...นี่แหละคือความสุขที่แท้จริงในชีวิต ความสุขที่เกิดจากการให้ผู้อื่น ความสุขจากการช่วยเหลือผู้อื่น’
‘ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ที่นำพาฉันมาสู่จุดหมายปลายทางนี้ ทุกอย่างสมบูรณ์มากพอแล้ว ฉันไม่ต้องการสิ่งใดอีกแล้วในชาตินี้...’
หญิงสูงวัยที่นั่งอยู่บนรถเข็นอัจฉริยะกำลังรำพึงรำพันอยู่ในใจ เธออยู่เพียงลำพังในสวนกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ที่ถูกจัดตกแต่งอย่างงดงามมีระดับ เธอกำลังนั่งมองตึกสีขาวหลังใหญ่โตโออ่า หน้าตาอิ่มเอมยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติ ฉันรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกเต็มตื้นสุขใจทั้งหมดของหญิงสูงวัยผู้นั้น เพราะในหัวใจของฉันขณะนี้ก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอ จนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามหญิงสูงวัยผู้นั้นอย่างมีความสุขเช่นกัน
“เฮ้ยเดี๋ยว!!! นั่นมันตัวฉันเมื่อชาติที่แล้วนี่หว่า!”
เฮือก...ก
ฉันลืมตาพรึ่บตื่นขึ้นมาทันทีทันใด มองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยก้อนเมฆลอยละล่อง นี่คือท้องฟ้าจำลองที่เกิดจากโปรแกรมอัจฉริยะของบ้าน แต่ความจริงมันคือเพดานห้องนอนต่างหาก ทั่วทั้งห้องนอนของฉันตอนนี้ราวกับฉันกำลังนอนอยู่บนเตียงที่ลอยละล่องอยู่กลางท้องฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ฉันลุกพรวดขึ้นจากเตียงด้วยอารมณ์ความรู้สึกพลุ่งพล่าน พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ความทรงจำในชาติที่แล้วของฉันกำลังไหลย้อนคืนกลับมา
“นี่ฉัน...กลายเป็นคนระลึกชาติได้ไปแล้วเหรอเนี่ย” ฉันยกมือเกาศีรษะแล้วลงมายืนบนพื้นห้อง “แล้วทำไมมาระลึกชาติได้เอาตอนนี้เนี่ย ตรงกับวันเกิดอายุครบยี่สิบของตัวเองเลย” ฉันยกมือเท้าเอว เดินไปเดินมาอย่างคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ด้วยเพราะพื้นห้องเป็นท้องฟ้าจำลองทำให้มองดูเหมือนฉันกำลังเดินอยู่กลางอากาศได้
“เฮ้ยเดี๋ยวดิ! จำได้ว่าก่อนตายมีเสียงปริศนาบอกว่าจะให้ฉันไปเสวยสุขไง เพราะฉันทำความดีช่วยเหลือผู้คนไว้เยอะแยะ...ไม่ใช่เหรอ” สติฉันเริ่มกลับมาและนึกถึงช่วงที่กำลังจะสิ้นใจเมื่อชาติก่อนขึ้นมาได้ “แล้วไหงฉันกลับมาเกิดใหม่ล่ะเนี่ย ไม่ได้ให้ฉันไปเสวยสุขบนสวรรค์หรอกเหรอ” อารมณ์งุนงงสงสัยเริ่มตามมา “เอ๊ะ!...หรือตอนนั้นฉันหูแว่วคิดไปเอง?” ฉันยกมือเกาหัวอย่างสับสน
‘เจ้าไม่ได้หูแว่วหรอก’
“เฮ้ย! ตกใจหมด ใครอ่ะ!!” ฉันอุทานตกใจ อยู่ ๆ ก็มีเสียงใครไม่รู้พูดขึ้นมา ฉันมองไปรอบ ๆ ห้อง ไม่เห็นมีใครซักคน
‘ข้าให้เจ้ามาเสวยสุขที่นี่ ไม่ได้บอกเจ้าเลยว่าจะให้เจ้าไปสวรรค์’ เสียงปริศนาเอ่ยต่อ
“เสียงใครน่ะ หรือคุณคือ…พระเจ้าเหรอคะ?” ประโยคหลังฉันถามออกไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
‘จงใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าต้องการ เป็นในสิ่งที่ใจเจ้าอยากเป็น ทำในสิ่งที่ใจเจ้าอยากทำ เลือกในสิ่งที่ใจเจ้าเป็นสุข’ เสียงปริศนาบอกฉันโดยไม่ตอบคำถามที่ฉันถาม
“เกิดมาเป็นมนุษย์ มันได้เสวยสุขตรงไหนกันล่ะคะท่าน” ฉันเปลี่ยนสรรพนามเรียก ทึกทักเอาว่าเสียงปริศนานี้อาจจะเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเรา ๆ คงไม่อาจไปต่อกรได้ ฉันเงี่ยหูรอฟังท่านผู้นั้นพูดต่อ แต่แล้วก็ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา เสียงปริศนาเงียบหายไปแล้ว
“อ้าว...หายไปไหนแล้ว ตอนมาท่านก็ทำเอาตกอกตกใจ ตอนไปท่านก็ไปแบบไม่ทันให้ตั้งตัวกันเลย เฮ้ออ...” ฉันถอนหายใจด้วยความรู้สึกสับสนงุนงงไปหมด
ก๊อก ก๊อก...
“วิกกี้...ตื่นรึยังลูก สายแล้วนะ” นั่นเสียงแม่ฉันเอง ท่านมาเคาะประตูเรียกแล้ว วันนี้ฉันมีนัดกับแม่จะออกไปข้างนอกกัน
“ตื่นแล้วค่ะแม่...กำลังจะอาบน้ำค่ะ” ฉันรีบเดินไปพับผ้าห่มบนเตียงให้เรียบร้อย
“เร็ว ๆ นะลูก ไปช้าเดี๋ยวแดดมันจะร้อน” แม่ส่งเสียงเร่งฉัน
“จ้า...กำลังรีบอยู่จ้า อีกสิบห้านาทีค่ะแม่” ฉันรับคำแม่ แล้วสั่งเปิดม่านหน้าต่างด้วยระบบเสียง ภาพทิวทัศน์ตึกสูงระฟ้ารูปทรงแปลกตา ยานพาหนะวิ่งฉวัดเฉวียนเต็มท้องฟ้ากำลังบอกฉันว่า...ฉันกลับมาเกิดใหม่แล้วจริง ๆ กลับมาเกิดในยุค 400 ปีถัดมาจากชาติก่อน
“ให้ตายสิ...แล้วฉันก็กลับมาเกิดเป็นทายาทรุ่นหลังของตัวเองในชาติก่อนเนี่ยนะ วิกกี้ โนเรีย เอ๊ย!”