วายร้าย...ละลายรัก
วายร้าย...ละลายรัก
ซาบซึ้งตรึงใจ
Ami/ภิญญ์พลอย
ออกไป!! อารมณ์เกรี้ยวกราดของเขา ทำเอาเธอถึงกับเข่าอ่อน ทว่าก็ต้องใจแข็งและท่องให้ขึ้นใจว่า เธอมีค่า...ค่ารักษาแม่ ค่าเทอมน้อง ๆ ค่าใช้จ่ายและบลา ๆ ๆ
  • 46 ตอน
  • 8,204
นิยายโดย
  • 8 เรื่อง
  • |
  • 16 คนติดตาม
บทนำ

ณ บ้านทรงไทยโบราณเก่าแก่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดแต่สภาพก็คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เดิมทุกประการ หากตรงไหนทรุดโทรมเสียหายผู้เป็นเจ้าของบ้านจะรีบซ่อมแซมทันทีให้ลักษณะเดิมคงอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่รุ่นลูกหลานสืบไป

บริเวณโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ และไม้ดอกไม้ประดับที่ผู้เป็นเจ้าของบ้านสมัยกาลก่อนได้ปลูกไว้ให้ความร่มรื่น ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้นอย่าง ต้นโมก ต้นลีลาวดี ต้นมะม่วง...และไม้ประดับอย่างมะลิ มะลิลา ราตรี...ที่ผู้เป็นเจ้าของชอบนักหนา แม้เวลาหมุนผ่านไปก็ยังคงดูงดงามเพราะมีคนคอยหมั่นดูแลเอาใจใส่ไม่เคยขาด...

เสียงย่ำเท้าของใครบางคนกำลังเดินเข้ามายังบริเวณแห่งนี้ เสียงถกเถียงยื้อแย่งที่ได้ยินก็พาให้ใครบางคนรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยความกังวล ยิ่งเดินใกล้เข้าไปเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดขึ้นเท่านั้น...

ไม่รอช้าคนที่เพิ่งกลับมาบ้านรีบสาวเท้าเดินเข้าไปตามเสียงนั้น แล้วภาพที่ปรากฏต่อหน้าก็คือน้องชายน้องสาวฝาแฝดต่างกำลังยื้อแย่งกอดมารดาตนนั่นเอง

วณาราถอนหายใจอย่างโล่งอก...ด้วยภาพที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่หญิงสาวนึกกังวลใด ๆ ก่อนหน้าก็ได้คิดไปต่าง ๆ นานากลัวว่าสองฝาแฝดนั่นจะมีเรื่องทะเลาะอะไรรุนแรง

ทว่าสิ่งที่เห็นในตอนนี้กลับเป็นเรื่องที่ใช่ว่าจะยื้อแย่งหรือถกเถียงกันได้ เพราะคนทั้งคู่ต่างก็เข้าเรียนมหาวิววทยาลัยกันแล้ว อายุอานามก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วสองคนนั่นยังจะทำเหมือนตัวเองอายุยังไม่ถึงสิบขวบอีก

คนเป็นพี่สาวได้แต่ส่ายหน้าให้กับคู่แฝดชายหญิงนี้ที่ดูท่าว่าจะโตแต่ตัว แต่นิสัยยังคงเป็นเด็ก ๆ ในวันวานของเธอเช่นเคยจึงอดไม่ได้ที่จะเอ็ดน้อง ๆ ของตนที่ทำตัวเช่นนี้

“พอได้แล้ว...วิน วิว...โตแล้วนะไม่ใช่เด็ก ๆ จะมาอ้อนแม่อยู่อย่างนี้”

วณาราอดไม่ได้ที่จะต่อว่าน้อง ๆ ที่ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ทั้งที่ก็โต ๆ กันแล้วยังจะทำท่ายื้อแย่งขอความรักจากมารดาอยู่นั่นแหละ เห็นสีหน้ามารดาแล้วก็เห็นใจที่น้อง ๆ เล่นอะไรเหมือนเด็กไม่รู้จักโตเสียที แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มารดาเป็นห่วงน้อง ๆ ได้ยังไงรวมทั้งเธอด้วย

“พี่หวานอิจฉาน้องกับวินใช่มั้ยล่ะ?”

วรรณารีเอ่ยเสียงสะบัดอย่างแง่งอน เมื่อพี่สาวสุดที่รักเอ่ยต่อว่าเธอและพี่ชายฝาแฝดตน

“พี่จะอิจฉาเราทำไม หึ?”

วณาราส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับความคิดนี้ของผู้เป็นน้อง พร้อมกับเอ่ยถามกลับด้วยความหมั่นเขี้ยวน้องเล็กของบ้าน

“ก็...”

วรรณารียังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น คนเป็นมารดาอย่างวนิดาก็เอ่ยขัดออกมาเสียก่อนเพราะเริ่มจะรำคาญเสียงพี่น้องถกเถียงกัน...

“พอ ๆ ได้แล้ว...”

“นั่นสิ...จะเถียงกันทำไมเนอะแม่เนอะ...”

วิทย์ธวินได้ทีเอ่ยอย่างเอาใจมารดาตนทันที

ทำเอาสองสาวพร้อมใจกันเอ่ยอย่างหมั่นไส้ท่าทีของชายหนุ่มหนึ่งเดียวของบ้านไม่ได้

“แหวะ!/แหวะ!”

“ฮ่า ๆ”

น้ำเสียงชายหนุ่มหนึ่งเดียวของบ้าน หัวเราะอย่างชอบใจกับสองสาวที่ตอนแรกเหมือนจะถกเถียงกันอยู่ดี ๆ สุดท้ายก็มาประสานเสียงอย่างไม่ได้นัดหมายเช่นนี้

“หัวเราะทำไมไม่ทราบ!!??”

วรรณารีเอ่ยถามเสียงสะบัด เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขบขันของชายเดียวในบ้าน

“ก็หัวเราะเรากับพี่หวานน่ะสิ...เถียงกันอยู่ฉอด ๆ อยู่แท้ ๆ พอพี่พูดกับแม่แค่นั้นแหละ...ฮ่า ๆ ”

วณาราถลึงตาใส่น้องชายตัวแสบของบ้านทันที

ออดอ้อนฉอเลาะมารดาเป็นที่หนึ่งซึ่งเธอและน้องสาวตนเป็นผู้หญิงแท้ ๆ ยังไม่ทำขนาดนี้เลย เห็นแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้จริง ๆ ผู้ชายอะไรออดอ้อนเป็นที่หนึ่งยิ่งว่าผู้หญิงเสียอีก

“เดี๋ยวเถอะพ่อตัวดี!!”

คนเป็นพี่ใหญ่สุดของบ้านชี้หน้าเอ่ยปรามด้วยท่าทางข่มขู่ ประมาณว่าหากยังทำตัวเช่นนี้อีกแล้วล่ะจะโดนมิใช่น้อย!!

“โอ๊ย!! พอเถอะลูก...แม่หิวข้าวแล้ว”

แค่มารดาเอ่ยเพียงเท่านั้น สามพี่น้องต่างพร้อมใจหยุดปะทะกันชั่วคราวแล้วช่วยกันพยุงพามารดาตนอย่างเอาอกเอาใจไปที่โต๊ะอาหารที่เตรียมไว้เรียบร้อยทันที

คนเป็นแม่รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ เหลือเกินกับความไม่ยอมกันของสามพี่น้องนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรหากไม่มีนางมาห้ามทัพ คงได้เถียงกันเสียงดังข้ามไปหลายบ้านแล้วมั้ง...

พูดอะไรเอ่ยอะไรคนแถวนี้คงรู้หมด ก็เล่นเถียงกันเสียงดังสนั่นลั่นทุ่งกันอย่างไม่มีใครยอมใครเช่นนี้ เห็นทีพรุ่งไปตลาดคงไม่วายโดนชาวบ้านละแวกนั้นเอ่ยถามเป็นแน่ แค่คิดก็รู้สึกว่าปวดหัวตุบ ๆ ขึ้นมาอีกระลอก

วิทย์ธวินที่สังเกตเห็นสีหน้ามารดาตนไม่ค่อยดีจึงเอ่ยขึ้นอย่างเอาอกเอาใจ

“อาหารมื้อนี้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเลยครับแม่”

วิทย์ธวินเอ่ยอย่างเอาใจพร้อมกับตักกับข้าวใส่จานมารดาของตน เสียงบุตรชายเรียกสติของวนิดาให้หลุดจากภวังค์ความคิดฉับพลัน

“แหม ๆ พี่วิน แม่ก็ทำกับข้าวอร่อยอย่างนี้ทุกวันอยู่แล้ว ทำเป็นไม่เคยกินฝีมือแม่ไปได้”

วรรณารีเอ่ยออกมาด้วยความหมั่นไส้นิด ๆ กับการเอาใจมารดาเกินหน้าเกินตาตนเองและพี่สาวไม่ได้

“อิจฉาล่ะสิ...ยัยวิว”

วิทย์ธวินยักคิ้วเอ่ยลากเสียงล้อเลียนน้องสาวคู่แฝดของตนด้วยใบหน้าระรื่น

วรรณารีกำลังจะเอ่ยโต้กลับ ทว่าเสียงมารดาก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้ตอบกลับพี่ชายคู่แฝดสุดแสบของตน

“เอาล่ะ ๆ ทานกันได้แล้ว...”

คนเป็นมารดารีบห้ามทัพเสีย ก่อนที่จะเกิดการถกเถียงจนบานปลายไปกันใหญ่

แล้วทุกคนต่างก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างสงบ??!! ทว่าเสียงเงียบได้ไม่เท่าไหร่ก็เริ่มมีการพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ไม่ใช่การถกเถียงเช่นเมื่อครู่ทว่ากลับเป็นเรื่องเล่าที่ต่างฝ่ายต่างเอามาเล่าตลก ๆ ให้ฟังจึงเป็นกลายเสียงหัวเราะเข้ามาแทนที่ พร้อมกับสามพี่น้องที่ต่างรุมตักข้าวอย่างเอาอกเอาใจมารดาตนโดยไม่มีใครยอมใคร

ทั้งสองสาวหนึ่งหนุ่มต่างพูดคุยหยอกล้อกันตามประสาพี่น้อง ก็ทำให้คนเป็นมารดาที่นั่งกินอยู่นั้นมองดูลูก ๆ อย่างมีความสุขและอดคิดถึงคู่ชีวิตตนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่ได้ เพราะเธออยากให้เขามาเห็นภาพลูก ๆ ทั้งสามคนที่เติบโตขึ้นจากผลผลิตความรักของเขาและเธอ...

เกี่ยวกับนักเขียน
8 เรื่อง 16 คนติดตาม
เรื่องนี้มีเวอร์ชั่น E-book