“เจ้าสาวของข้า”
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับผ้าคลุมหน้าสีแดงค่อยๆ ถูกเปิดออก แล้วอันเฉินก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าของเจ้าบ่าวอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก
โอ้...นี่คืออ๋องสิบอย่างนั้นหรือ เขาช่างรูปงามกว่าคุณชายทุกคนที่นางเคยพบเสียอีก
หญิงสาวเผลอตัวมองชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะตกใจจนสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆ เจ้าบ่าวที่สง่างามของนางทำหน้าทะเล้นและแลบลิ้นใส่
“แบร่...”
“เอ่อ...” คุณหนูห้าแห่งสกุลหลินที่บัดนี้คือพระชายาของอ๋องสิบเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอสถานการณ์นี้เข้า
--------------------------------------------
“อุ๊ย! ท่านอ๋องอย่า ปล่อยหม่อมฉันเถิดเพคะ” อันเฉินตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกสามีพลิกตัวเข้ามากอด แถมยกขาก่ายอยู่บนตัวของนางอีกด้วย
“ข้าไม่ปล่อย ข้าอยากนอนกอดเจ้า” นอกจากไม่ปล่อยแล้วยังเบียดกายแนบชิดมากขึ้นอีกด้วย ทำเอาคนถูกกกกอดนอนตัวแข็งทื่อ แต่ใจนั้นสั่นระรัวเลยทีเดียว
“แต่...”
“เจ้ากอดข้าหน่อยสิเฉินเอ๋อร์ ไม่อย่างนั้นข้านอนไม่หลับ” เขาอ้อน
“ไม่”
“เฉินเอ๋อร์ใจร้าย ใจร้ายๆๆ” อ๋องสิบโวยวายนอนชักดิ้นชักงอเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ อันเฉินนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ จนเมื่อตั้งสติได้ก็รีบบอกว่า
“ได้ๆ หม่อมฉันจะนอนกอดเพคะ”
“จริงนะ” เขาหยุดดิ้นพลางถามเพื่อความแน่ใจ
“จริงสิเพคะ”
“เย้! เฉินเอ๋อร์ใจดีที่สุดเลย” ชายหนุ่มยิ้มกว้างแล้วขยับตัวเข้ามานอนกอดหญิงสาวไว้ ซึ่งอันเฉินก็กอดตอบด้วยความประหม่าอาย พลางคิดในใจว่าเห็นทีจะไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้เสียแล้ว เพราะคาดเดาอารมณ์ของพระสวามีนางไม่ได้เลยจริงๆ