เล่ห์ลวง บ่วงรักเมษา
เล่ห์ลวง บ่วงรักเมษา
ดราม่าน้ำตาริน
เมษายังยืนสำรวจห้องพักของแม่หลานสาว เขาต้องหักห้ามใจไม่คิดเคืองคนตัวอวบ เงยหน้ามองเพดาน หลับตานับหนึ่งถึงสิบ ทำใจเย็นแล้วหันมองหญิงสาว “มะ…ไม่รู้ค่ะ” เปรยเสียงสั่นแผ่วเบา ก้มหน้ามองผิวท้องที่ไหวดิ้นยุบยิบ เหมือนลูกในท้องจะรับรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นใคร “เจ็บเตือนบ้างหรือยัง?” จ้องมองตรงหน้าท้องจนเห็นการเคลื่อนไหว เมษาเหมือนถูกสะกดจิตให้เดินเข้าไปหาหลานสาว เขาทรุดนั่งคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาว “นะ… น้าเมฆ!!” อุทานเสียงตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างดูชายหนุ่มนั่งคุกเข่าตรงหน้า “เจ็บมากไหมครับ?” คนตัวโตใจร้าว เจ็บทรมานไม่แพ้เธอ เมื่อเอ่ยถามเรื่องความเจ็บปวดที่เธอได้รับอย่างแสนสาหัส “มีบ้างค่ะ” ยืนนิ่งเป็นหุ่นปั้น เธอตอบไม่ตรงคำถาม เพราะเข้าใจไปว่าเขาถามเรื่องลูกในท้อง “น้าขอโทษ” ร่างสูงคืบคลานเข่าเข้าหาหญิงสาว
  • 3 ตอน
  • 1,400
นิยายโดย
  • 4 เรื่อง
  • |
  • 1 คนติดตาม
บทนำ

เล่ห์ลวง….

บ่วงรักเมษา...




เล่ห์ลวง บ่วงรักเมษา

ผู้แต่ง : อังศุมาลินทร์

วางจำหน่ายครั้งแรก : 10ธันวาคม 2560

ราคาปก : 350 บาท

ราคา E Book : 295 บาท

จัดทำโดย อังศุมาลินทร์

ออกแบบปก : ยูจีน ปกนิยาย

พิสูจน์อักษร : เบญจกัลยา

E-mail : lane81th@gmail.com

Facebook : อังศุมาลินทร์ กังสดาล พิมพ์มาดา

Fan Page : ตะวันทอแสง พิมพ์มาดา อุงศุมาลินทร์






@สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537

ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของงานประพันธ์



จากใจอังศุมาลินทร์


ก่อนอื่นอังศุมาลินทร์ก็ต้องขอสวัสดีแฟนนิยายทุกท่าน ที่ติดตามผลงานของนักเขียนไร้สังกัดคนนี้ นิยายเรื่อง เล่ห์ลวงบ่วงรักเมษา เป็นเรื่องที่สี่ของนามปากากอังศุมาลินทร์ การขีดเขียนเรื่องนี้ อังได้แรงบันดาลใจจากตัวเองที่มีความรักให้กับน้าชายตัวเอง เป็นความรักของเด็กอายุสิบขวบนะคะ คือครั้งนั้นไม่รู้ว่าเป็นความรักด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ชอบเวลาน้าชายมีเพื่อนสาวข้างกาย ถามตัวเองว่าทำไมต้องเขียนแนวน้าหลาน คือเมื่อต้นเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา อังโทร. คุยกับคุณแม่ทุกวัน แบบเห็นหน้ากัน และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น น้าชายที่ไม่เคยเจอกันเป็นเวลายี่สิบกว่าปี ก็ปรากฏกายยืนอยู่ด้านหลังคุณแม่ คือตะลึงค่ะ รู้ไหม.. อังยังมีความอายน้าชายอยู่ ปกปิดไม่อยู่ เพราะใจลึกๆ ก็ยังแอบรัก หรือว่าปลื้มน้าชายตัวเองอยู่นั้นแหละ จะอะไรก็แล้วแต่ ความรักเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่จะเป็นรักแบบไหนนั้น รักเพื่อได้มาครอบครอง รักเพราะเราปลื้ม สำหรับอัง คงจะเป็นรัก และปลื้มน้าชายมากกว่า…

นิยายเรื่องนี้ อังแค่ดัดแปลง แต่งมโนเสียส่วนใหญ่ เอามาผสมกับเรื่องจริงเล็กน้อย ขอฝากผลงานแนวนี้ไว้ในอ้อมใจของสาวๆ สักเรื่องนะคะ สุดท้ายอังศุมาลินทร์ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้ทุกคนรักกันเหมือนอย่างที่อังรัก และแคร์ความรู้สึกของแฟนนิยาย อังขออวยพรล่วงหน้า ใกล้ถึงปีใหม่แล้ว ขอให้ทุกท่านเจอแต่สิ่งดีๆ เข้ามาหาตัวเองตลอดปี 2561ขอให้พระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครอง

จากใจ...อังศุมาลินทร์

ฝากผลงานเรื่องต่อไป อาญารักร้าย เอาไว้ด้วยนะคะ



บทนำ


เมษายืนแทบไม่ติดพื้นยามได้ข่าวจากนางสมนึก คนดูแลนางนวลฉวี ว่าพี่สาวถูกหามส่งโรงพยาบาล ใจของเขาร้อนรน ยืนเฝ้ามองร่างของนางนวลฉวีอยู่ปลายเตียงคนไข้ ใบหน้าเข้มเคร่งขรึมกลัดกลุ้มเจ็บหน่วงๆ ร้าวรานหัวใจที่สุด ดวงตาสีนิลจับจ้องมองร่างบางเพรียวเล็กของพี่สาว ที่นอนหายใจติดขัด เรียวตาตี๋ปลายหางตาตก ที่โบราณเขาเรียกว่าเรียวตาปลาดุกนั่น ขยับขึ้นลงมองสำรวจใบหน้าเรียวรูปไข่ ถึงจะมีริ้วรอยเหี่ยวย่นก็ตาม แต่นั่นก็ยังคงไว้ความสวยงามและคล้ายคลึงใบหน้าของใครอีกคนหนึ่งที่เขาเฝ้าคิดถึงถวิลหาทุกลมหายใจเข้าออก

“กะ… กะ… กั้งลูกแม่ ลูกอยู่ไหน กลับมาหาแม่นะลูก มาหาแม่นะลูก…อึกก” ร่างของคนป่วยที่นอนพูดละเมอ เนื้อตัวสั่นไหวเพราะแรงสะอื้น ปลายหางตามองเห็นได้ชัดเจนว่านางนอนร้องไห้ทั้งที่ยังหลับสนิท แรงของการสะอึกและถอนหายใจนั่น โรยรินยิ่งนัก...

“พี่นวล” เมษาตื่นจากพะวง แล้วรีบขยับเท้าเดินเข้าไปหา แล้วหยุดยืนตรงปลายเตียงคนไข้ ยามได้เห็นร่างของพี่สาวขยับดิ้นไปมาบนที่นอน มือของนางยกขึ้นไขว่คว้าอะไรบางอย่าง

“อย่าไปลูก.. กลับมา..” นางนวลฉวีได้แต่ฉุดรั้งเอาแขนล่ำกำยำของน้องชายเข้ามาโอบกอด เสียงของนางกระซิบกระซาบแผ่วเบา เปรยเรียกหาลูกสาวคนเดียว แต่นั่นก็ยังทำให้ชายหนุ่มได้ยินอย่างชัดเจน

“พี่นวลครับ” เมษาปล่อยให้นางนวลฉวีฉุดรั้งต้นแขนอยู่อย่างนั้น ใบหน้าสีเข้ม ตรงข้างแก้มและเรียวคางนั่น เต็มไปด้วยเคราสีดำเป็นตอๆ ได้แต่ก้มมองใบหน้าของพี่สาว มันมีแต่คราบน้ำตาไหลอาบหางตา หยดย้อยเปียกแฉะใบหมอนที่หนุนอยู่ หัวใจอันแข็งแกร่งนั่นหวิวๆ ขึ้นมาทันที ยามได้ยินพี่สาวพร่ำเพ้อถึงใคร

“มะ… เมฆ...?” นางนวลฉวีขยับเปลือกตาอันพร่ามัวอย่างยากลำบาก หนักหน่วงตาเหลือเกิน พยายามกะพริบตาสะลึมสะลือปรับให้เข้ากับแสงสว่างของแดดที่ส่องมาตามหน้าต่าง แววตาสั่นไหวมองหน้าน้องชาย เปรยเสียงแผ่วหวิว พร้อมทั้งพยายามพยุงตัวเองให้ลุกนั่งในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

“พี่นวลเป็นอย่างไรบ้างครับ?” เมษายังยืนชิดขอบเตียงด้านข้าง เรียวแขนอันแข็งแกร่งช่วยโอบพยุงพี่สาวให้ลุกนั่ง เขาปรับด้านหัวของเตียงให้ยกสูงขึ้น แล้วใช้หมอนหนุนไว้ด้านหลังของพี่สาว

“แค่กก… พี่หลับไปนานแค่ไหน?” นางนวลฉวียกมือปิดเรียวปากอันแห้งกรัง แล้วชำเลืองสายตามองหน้าน้องชายคนเดียว นึกเห็นใจชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย

“ดื่มน้ำก่อนนะครับ” เมษาเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งของเตียงนอน เขาหยิบเหยือกน้ำที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง แล้วเทน้ำใส่แก้วยื่นให้พี่สาว แล้วเลื่อนเก้าอีกข้างเตียงเข้ามานั่งลงตรงขอบเตียง

“ขอบใจเมฆมากนะ ที่มาเฝ้าดูแลพี่ทุกวันแบบนี้”

“ผมต้องมาดูแลพี่สาวคนเดียวของผมอยู่แล้วนี่ครับ” เมษาเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของหญิงชราผู้มีพระคุณ มองเห็นริ้วรอยความทุกข์ของพี่สาว

“พี่ป่วยแบบนี้ ทำให้เมฆไม่เป็นอันทำงานทำการ เพราะพี่…อึกก” ยกเรียวมือขึ้นปิดปาก หวังกลบเกลื่อนเสียงสะอื้น พร้อมทั้งเบือนสายตาอันร้าวรานหันไปมองทางอื่น ไม่อยากให้น้องชายเห็นน้ำตา ที่มันคอยแต่จะไหล ยามนึกถึงลูกสาวคนเดียว ถ้าเธออยู่... ป่านนี้คงจะมานอนเฝ้าและคอยดูแลนางเป็นแน่!

“พี่นวล!!” เมษาเงยหน้ามองพี่สาวที่นั่งตัวสั่นเพราะแรงสะอึกสะอื้น เขาก็ปวดใจใช่น้อย ยามได้เห็นนางนวลฉวีเป็นแบบนี้

“ถ้ายัยกั้งอยู่ เมฆคงไม่ต้องลำบากมาดูแลพี่” เปรยเสียงอันสั่นเครือแผ่วๆ ไม่อยากให้น้องชายมารับรู้ความในใจของตัวเองมากนัก

“พี่นวลอย่าร้องไห้เลยครับ” รีบขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้แล้วเข้าไปนั่งบนขอบเตียง ใช้วงแขนอันกำยำโอบกอดร่างเพรียวน้อยของพี่สาวไว้

“มะ…เมฆ พี่คิดถึงลูก ป่านนี่ยัยกั้งจะเป็นอย่างไรนะ?” ใบหน้าเหี่ยวย่นซบลงบนอกแกร่ง พร้อมทั้งส่งเสียงอันสั่นเครือ พึมพำหาลูกสาวสุดดวงใจ

“กั้งสบายดีครับ พี่นวลไม่ต้องเป็นห่วง” เสียงเข้มนุ่มฟังดูอบอุ่น แต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดร้าวรานใจ เอ่ยบอกพี่สาว หวังให้นางหยุดทุกข์โศกเศร้า

“พี่อยากเจอลูก… อยากเห็นหน้าหลาน…”

“ครับ” เมษาเอ่ยรับคำพี่สาว แต่แววตาของเขานั้นสั่นไหว ยามได้ยินคำว่า หลาน มันช่างกัดกินหัวใจอันช้ำเหลือเกิน มันไม่ต่างจากเขาเอาเสียเลย หัวใจอันแข็งแกร่งดวงนี้ก็คิดถึงและเฝ้าฝันหาแต่พวกเธอทั้งสองไม่แพ้กัน

“เมฆ ไปตามยัยกั้งให้พี่ได้ไหม?” นางนวลฉวีผลักใบหน้าอันเต็มไปด้วยน้ำตาออกจากอกแกร่ง แล้วเงยมองหน้าน้องชาย ส่งแววตาอันปวดร้าวรานเข้าไปในดวงตาสีเข้ม หวังให้ชายหนุ่มรับรู้ว่านางขอโทษ ที่ทำให้เรื่องต้องเป็นแบบนี้ “พี่คิดถึงลูก.. อยากเห็นหน้าหลาน..”

นางนวลฉวีได้แต่พึมพำ เปรยเสียงกระซิบแผ่วเบาหาลูกหาหลาน ใบหน้าของนางยังซบบนอกแกร่ง

“ครับ ผมจะไปตามยัยกั้งกลับมาครับ” แววตาสีนิลก้มมองใบหน้าของพี่สาวผู้มีพระคุณ เขาพร้อมที่จะทำตามคำบัญชาของนางนวลฉวีทุกอย่าง พอเสียทีกับการที่ต้องทนรอคอย จะไม่ขอเจ็บปวดทรมานหัวใจอีกต่อไป พร้อมแล้วกับหัวใจช้ำๆ กลัดหนอง พร้อมที่จะไปตามเอาหัวใจของตัวเองกลับคืนมาเสียที และจะไม่มีวันปล่อยให้เธอหนีหายไปไหนอีกเป็นแน่!



ฝากผลงงานอีกเรื่องด้วยนะคะมีขายในอีบุ๊คแลเปิดให้จับจองเล่มอยู่

สามารถที่จะพูดคุยกับอังศุมาลินทร์ ได้ทาง เพจ และ เฟสบุ๊ก นะคะ

(เฟลบุ๊ก)อังศุมาลินทร์ กังสดาล พิมพ์มาดา

(เพจ)ตะวันทอแสง พิมพ์มาดา อังศุมาลินทร์ นักเขียน

เกี่ยวกับนักเขียน