หมออติรุจใช้เวลาขับรถออกจากโรงพยาบาลเพียง 15 นาทีก็ถึงคอนโดที่ตนซื้อไว้ เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองไปยังระเบียงหลังห้องที่ 3 ชั้นที่ 4 ก็พบเด็กสาวในชุดนักศึกษากำลังโบกไม้โบกมือพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา
ในขณะที่เดินเข้าใกล้ตัวตึก เด็กสาวนอกจากจะไม่สำนึกแล้ว เธอยังโยนบางสิ่งบางอย่างลงมา ตกลงปิดหน้าขณะที่หมออติรุจกำลังส่งสายตาคาดโทษกลับไป
แมะ
หมออติรุจหยิบเสื้อยกทรงลายลูกไม้นุ่มนิ่มที่ร่วงล่วงหล่นลงมาปิดหน้าเขาออก กลิ่นอายสาวหอมอ่อน ๆ ยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ใบหน้าของหมออติรุจแดงก่ำ เลือดภายในกายเขาสูบฉีดมากขึ้น จวนเจียนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเล่นพิเรนทร์ ๆ กับเขาเช่นนี้ นอกจากตัวป่วนหัวใจที่แสนจะน่ารัก
“นิชา”
หมอหนุ่มแผดเสียงดังลั่น
สาวน้อยที่อยู่ระเบียงหลังห้อง ไม่มีท่าทีเกรงกลัวกับเสียงดุ ๆ หนำซ้ำเธอยังยิ้มหน้าระรื่น พร้อมกับเสียงใส ๆ ที่ตะโกนขึ้นมาว่า
“ที่รัก เร็ว ๆ สิคะ นิชารอพี่หมอกลับมากิน จะไม่ไหวแล้ว”
ประโยคนั้นเล่นเอาหมอหนุ่มที่ยืนอยู่ร้อนฉ่าไปทั้งหน้า มองซ้ายแลขวาอย่างหวั่น ๆ กลัวว่าใครเดินผ่านไปมาแถวนั้นจะได้ยิน จากนั้นก็รีบเดินเข้าไปในลิฟท์ เพื่อขึ้นไปยังห้องพักของเขา
ระหว่างเดินขึ้นห้องพัก ภายในใจเขาเต็มไปด้วยความโมโห ปะปนกับความยุ่งยากใจ
- ใครสั่ง ใครสอนให้เธออ่อยผู้ชายแบบนี้ ! เธอไปเอาประโยคห่าม ๆ แบบมานี้จากไหน–
เขาต้องจัดการให้เธอกลับคฤหาสน์ของเธอโดยด่วน ก่อนที่ลุงเดชาจะทราบว่านิชามาที่คอนโดของเขา ซึ่งทั้งพ่อและลุงเดชาต่างก็ฝากฝังนิชาให้เขาดูแล เขาจะทำอะไรเกินเลยจนทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่ได้
ปิ๊ง ป๊อง
เสียงกดกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ประตูห้องที่เขาเป็นเจ้าของแต่มีสาวน้อยเข้ามาอยู่โดยไม่ได้รับอนุญาตเปิดออก แล้วร่างสวยก็กระโดดกอดเขา พร้อมกับจูบเขาแทบจะทันที
สัมผัสอันอ่อนโยนนุ่มนวลของหญิงสาว ทําให้ความคิดที่ที่จะขับไล่เธอออกไปจากคอนโดให้เร็วที่สุดได้มลายไป พร้อมกับร่างกายของเขาที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เขาดันร่างสวยเข้าชิดผนังห้องบดจูบลงรุนแรงกว่าเดิม จนร่างกายของทั้งคู่ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
“อื้อ อึก”
นิชาครางออกมาแผ่ว ๆ นี่เป็นจูบแรกของเธอที่ได้รับจากผู้ชายที่เธอเฝ้ารักมาถึง 15 ปี นึกไม่ถึงว่ารสจูบของเขาจะรัญจวนใจจนเธออ่อนปวกเปียกไปทั้งร่าง ราวกับขี้ผึ้งที่ถูกไปรน
“อืม”
ปลายลิ้นของเขาดุนริมฝีปากบาง จากนั้นเขาแทรกก็ปลายลิ้นร้อนฉ่าเข้าควานหาความหวานในโพรงปากหญิงสาว เกี่ยวกวัดรัดลิ้นเรียวเล็กอย่างเจนจัด
“อื้อออ”
นิชารู้สึกแข้งขาไม่มีเรี่ยวแม้จะยืน เธอจึงยกมือขึ้นคล้องคอเขายึดเอาไว้ในขณะที่ หมอหนุ่มลิ้มรสหวานซาบซ่านจากปลายลิ้นและริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน
“อ่า”
และเมื่อเห็นว่าเธอจวนเจียนจะขาดใจ เขาก็ค่อยๆ ถอนจูบออก ทั้งคู่หอบหายใจกระชั้น ปากของนิชาบวมเจ่อเป็นสีแดงระเรื่อ ยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากประทับปากลงไปอีกครั้ง
หมอหนุ่มขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน รีบสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านเมื่อสักครู่ให้สงบ แววตาของเขาเข้มขึ้น
“นิชา พี่บอกแล้วใช่ไหมให้รีบกลับบ้าน เดี๋ยวลุงเดชาเป็นห่วง”
เขาดุเธอเสียงเข้ม ใบหน้าเรียบเฉย ทำราวกับว่าเมื่อสักครู่เขาไม่ได้ชิมรสหวานปานจะกลืนจะริมฝีปากบางแม้แต่น้อย
นิชาไม่สนใจน้ำเสียงดุ ๆ ของเขา กระชับวงแขนที่คล้องรอบคอชายหนุ่มให้แน่นขึ้น หล่อนโทรไปบอกที่บ้านว่าจะค้างที่บ้านเพื่อนเพื่อทำรายงาน วันนี้เธอจะต้องเค้นเอาคำตอบจากผู้ชายปากแข็งตรงหน้าให้ได้
“พี่หมอรุจรรักนิชาไหมคะ”
หญิงสาวช้อนตามองเขาอย่างออดอ้อน
กิริยาท่าทางของเธอนั้นคล้ายแมวตัวนุ่มที่ชอบมาคลอเคลียใกล้ ๆ จนทำให้หัวใจของชายหนุ่มรู้สึกคันยุบยิบ
“เลิกเล่นอะไรแบบนี้ได้แล้ว และกลับบ้านไปเสีย ใครมาเห็นว่านิชาอยู่ห้องพี่มันจะไม่งาม”
หมออติรุจไม่ตอบคำถามเธอเหมือนเช่นเคย เขาดึงแขนของหญิงสาวออกจากคอ แล้วดันร่างนุ่มนิ่มห่างออกก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้อีกครั้ง
แต่แล้วเขาก็พบว่า เนินเนื้ออวบอัดคล้ายภูเขาสองลูกตั้งตระหง่าน ภายใต้ชุดนักศึกษาสีขาวบางนั้น ไม่มียกทรงปกปิด ทำให้เห็นจงอยสีเข้มสองจุด เป็นพุ่มแหลมชี้ตรงหน้าเขาอย่างจัง จนเขาต้องรีบหันหน้าไปทางอื่นแล้วรีบยื่นยกทรงคืนให้เธอ
“นิชาเอาชุดชั้นในไปใส่เดี๋ยวนี้! ”
“ถ้าใส่แล้ว พี่หมอรุจจะไล่นิชากลับไหม”
หญิงสาวฉวยโอกาสตอนที่ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอสวมกอดเขาจากด้านหลัง แนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังแกร่ง
“มะ ไม่ไปใส่ชุดชั้นในก่อน”
เสียงของเขาพร่าแหบ ความนึกคิดของเขาทั้งหมดพุ่งตรงไปที่แผ่นหลังที่มีอกอวบเบียดความอ่อนนุ่มลง เกิดความร้อนผ่าวขึ้นกลางกายเขาจนรู้สึกว่าห้องของตนแอร์เสียหรือไม่ ยัยจอมยุ่งป่วนป่วนหัวใจเขาจนแทบไม่เป็นตัวของตนเอง
“ไม่เอา บอกก่อนว่าจะไม่ไล่นิชาไปไหน”
เธอดิ้นไปมาราวกับเด็กเอาแต่ใจ ทั้งที่มือยังสวมกอดเขาไว้แน่น ร่างนุ่มนิ่มยิ่งเสียดสีกับกล้ามเนื้อแกร่ง ยิ่งเป็นการราดน้ำมันลงไปในกองไฟ
“ไม่ไล่ ๆ ปล่อยพี่ได้แล้ว”
หมออติรุจรีบบอก ก่อนที่เขาจะจับเธอกดลงกับพื้นเสียเดี๋ยวนั้น