มี EBOOK วางขายบน MEB ราคา 89 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 20 ธ.ค.63
*หมายเหตุ ฉบับที่ลงให้อ่านบนเว็บ ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์ เป็นตันฉบับดิบเถื่อนสุด ๆ ขออภัยหากมีอะไรติดขัดนะคะ ***คำเตือน : นิยายเรื่องนี้มีฉากการร่วมเพศ สำหรับน้อง ๆ ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี และผู้ที่ไม่ชอบแนวนี้ แนะนำว่าไม่ควรอ่านนะจ๊ะ ปรารถนาร้อนอ้อนรัก ภวิศบังเอิญเจอเกวลีในวันที่เธอช้ำรัก ความปรารถนาของร่างกายนำพาให้ทั้งคู่เลยเถิดจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง คนหนึ่งไม่อยากรู้จักและสานต่อ หากแต่อีกคนกลับโหยหาและเฝ้ารอที่จะพบเจอ จนได้มารู้ว่าหญิงสาวเป็นพี่ของเพื่อนสนิท ภวิศจึงไม่อาจปล่อยเธอให้จากไปได้อีกครั้ง ชายหนุ่มจึงต้องเข้าหาและอ้อนเธอให้ปรารถนาเพียงแค่เขา... “ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว” เกวลีเอ่ยเสียงเบา หันไปมองสบตาอีกฝ่ายอย่างสื่อความหมายอะไรบางอย่าง “แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง” เพราะความเจ็บช้ำใจผสมกับความมึนเมาจึงทำให้เธอคิดอะไรแปลก ๆ รวมถึงพูดอะไรแปลก ๆ ออกมา แต่ถึงอย่างนั้นเกวลีก็มั่นใจแล้วว่าเธอตัดสินใจที่จะทำมัน “คืนนี้เรา...อยู่ด้วยกันได้ไหม” “ที่พูดเนี่ย รู้หรือเปล่าว่าหมายความว่าอะไร” ชายหนุ่มถามจริงจัง เพราะที่ได้ฟังมันคล้ายเธอเสนอตัวอยากอยู่กับเขาทั้งคืน และแน่นอนว่ามันคงไม่ใช่แค่การนั่งคุยกันหรือนอนคุยกันเฉย ๆ แน่ ถึงแม้เธอจะทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจไปบ้าง แต่รูปร่างและใบหน้าก็จัดว่าเป็นสาวสวยดูดีถูกสเปกไม่น้อย เขาไม่ได้มีพันธะอะไร และไม่ได้เป็นคนดีขนาดที่มีคนมาเสนอตัวให้แล้วจะไม่สนองกลับ ต่างคนต่างโต ๆ กันแล้ว ถ้าแค่สนุกกายสบายใจ เสร็จกิจก็แยกย้าย...มันก็เป็นเรื่องปกติ “แล้วนายว่าไงล่ะ” หญิงสาวถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ไม่อยากพูดซ้ำให้ต้องอับอาย ไหน ๆ อดีตคนรักก็ไปมีอะไรกับใครก็ได้...แล้วทำไมเธอจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ ร่างกายเธอ...สิทธิ์ของเธอ และตอนนี้คนโสดไร้พันธะใด ๆ อย่างน้อยมันคงช่วยทำให้ความเจ็บใจทุเลาลงไปได้บ้าง ภวิศยังไม่ได้ตอบในทันที เขาเปิดช่องเก็บของตรงคอนโซลรถ หยิบกล่องอะไรบางอย่างมาเปิดดู พอเห็นว่ายังมีอุปกรณ์ป้องกันสำหรับกิจกรรมรักหลงเหลืออยู่อีกหนึ่งชิ้น เขาจึงวางมันไว้ตรงต้นขาแล้วจัดการปรับเบาะที่นั่งฝั่งคนขับให้เอนลงไปในระดับที่ต่ำสุด ก่อนตบลงบนหน้าตักเบา ๆ “ขึ้นมาสิ พี่ต้องทำนะ...พอสร่างเมาแล้วผมจะได้ไม่โดนกล่าวหาว่าปลุกปล้ำขืนใจใคร” ชายหนุ่มบอกพร้อมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย สำหรับเขาไม่ติดขัดอะไรอยู่แล้ว เขาไม่ได้เสียหาย...มีแต่ได้กับได้ “เอาไง มันจะตีสองอยู่แล้ว” ว่าแล้วก็ตบหน้าตักกระตุ้นอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มอำนวยความสะดวกให้ด้วยการปลดเข็มขัดรัดเอวออก รวมถึงปลดกระดุมกางเกงยีนและรูดซิปรอเธอมาจัดการต่อ เกวลีมองภาพตรงหน้าด้วยใจที่เต้นระทึก ทั้งตื่นเต้น ประหม่า และเริ่มไม่แน่ใจกับเรื่องที่ตัวเองกำลังจะทำ แถมยังต้องทำกับคนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำ พอเริ่มได้สติมองใบหน้าเขาดี ๆ ถึงได้พอรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเรียกเธอว่า ‘พี่’ แม้ตอนนี้จะมีเพียงแสงไฟสลัวจากหลอดไฟในรถ แต่ก็เห็นชัดว่าใบหน้าเขายังดูอ่อนเยาว์คล้ายเพิ่งพ้นช่วงวัยรุ่นมาได้ไม่นาน อาจจะอ่อนว่าเธอสักสามสี่ปีด้วยซ้ำไป “เอาไงครับ ไม่เอาก็แยกย้ายกลับบ้านนอน” สิ้นเสียงของภวิศ คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนใจก็เริ่มเคลื่อนย้ายตัวเองโดยการปีนมานั่งคร่อมที่หน้าตักของอีกฝ่ายด้วยท่าทางที่ทุลักทุเล เกวลีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เห็นสายตากรุ้มกริ่มที่เขาจ้องมองเธอไม่วางตาก็ยิ่งทำให้ใจแทบจะระเบิดออกมาจากอก ภาพกิจกรรมเร่าร้อนที่เคยจินตนาการถึงแวบขึ้นมาเป็นระยะจนทำให้มือไม้สั่นไปหมด แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น...เธอมีเรื่องหนึ่งอยากจะสารภาพ “...ฉัน...ฉันทำไม่เป็น”