นิยายเรื่องนี้จะกล่าวเกี่ยวกับคนในยุคปัจจุบันสามารถติดต่อสื่อสารกับคนในอดีตทุกช่วงได้ตัวเอย่างเช่น ยุคกรีก ยุคโรมัน ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคปฏิวัติฝรั่งเศส ฯลฯ โดยการค้นพบที่ทำให้มนุษยชาติสามารถติดต่อสื่อสารกับคนในอดีตได้เกิดจากไอเดียของนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่2 โดยนักวิทยาศาสตร์ชื่อ ดีลัส มาสดี้ (ขอเรียกย่อๆว่า มาสดี้) เขาเป็นนักวิทยาศตร์ของพรรคนาซีที่เก่งกาจมากในด้านอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่าประเทศไหนๆจะทำได้ในเวลานั้น เขาได้คิดค้นและพัฒนาทฤษฏีโลกคู่ขนานโดยมีความเชื่อเดิมที่ว่าภาพวาดมนุษย์ต่างดาวตามฝาพนังถํ้าหรือข่าวหนังสือพิมพ์เรื่องที่ผู้คนต่างให้คำสัมภาษณ์ว่าตัวเขาเองนั้นได้ถูกเอลี่ยนหรือมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปเพื่อทดลองหรือดูอวัยวะภายในเพื่อการศึกษาแท้ที่จริงแล้วพวกเขา(เอลี่ยนหรือมนุษย์ต่างดาว)เป็นมนุษย์โลกในอีกจักวาลต่างหากที่ได้ค้นพบวิธีการข้ามจักวาลมาเพื่อสำรวจแต่กลับพบว่ามีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับพวกเขาที่มีสติปัญญาเหนือกว่าสรรพสัตว์ในโลกที่พวกเขาอาศัยแต่แตกต่างกันเพียงแค่สรีระรูปร่างทางกายภาพเท่านั้นเอง นักวิทยาศาสตร์คนดังกล่าวได้เอาแนวความคิดนีัมานำเสนอในที่ประชุมเพื่อที่จะได้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ในอนาคตและขอนวัตกรรมของโลกอนาคตเพื่อสยบทุกๆประเทศที่เป็นศัตรูกับพรรคนาซี หลังจากที่เขานำเสนอไปได้ยังไม่ทันจบทุกๆคนต่างคัดค้านกับแนวความคิดบ้าๆของเขาเพราะมันเป็นเหมือนกับนิทานหลอกเด็กและอีกอย่างคือพวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำงานวิจัยบ้าๆบอๆในเวลาที่ทุกๆประเทศสู้รบกันด้วยอาวุธยุทธโธปกรณ์ไม่ใช่เอาทฤษฏีมนุษย์ต่างดาวมาสู้กันเพราะฉะนั้นแนวคิดนี้จึงถูกตีตกไป แต่ในทาง กลับกันมีนักวิทยาศาสตร์สองคนที่ชื่นชอบในผลงานเก่าๆของ มาสดี้ เป็นอย่างมาก(เรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับกันเลยที่เดียว) เช่น ปืนลูกระเบิด รถถังที่ไปได้ทุกพื้นที่ และอีกหลายผลงานที่ไม่มีใครคาดคิด หลังจากที่การประชุมจบลง พวกเขาทั้งสองได้ไปขอเข้าร่วมโครงการพัฒนาทฤษฏีโลกคู่ขนาน มาสดี้ ดีใจเป็นอย่างมากที่ในที่สุดก็มีคนเห็นด้วยกับเขา การที่พวกเขาจะสามารถวิจัยและพัฒนาเครื่องติดต่อสื่อสารได้นั้น พวกเข้าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพราะ มาสดี้ ได้คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถ้าโครงการนี้ผ่านการพิจราณามันจะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินมหาศาลแน่นอน มาสดี้จึงเอางบประมาณจากโครงการอื่นๆของเขามาลงกับเครื่องติดต่อสื่อสาร และให้ลูกทีมของเขาค่อยวิจัยและพัฒนาต่อไป เวลาผ่านไปเรื่อยๆ มาสดี้ ก็ถูกสงสัยว่าได้งบประมาณจากหลายโครงการไปแต่ไม่สามารถผลิตผลงานออกมาได้เลยสักชิ้นเดียว จนกระทั่งถึงคราวที่พรรคนาซีถูกโจมตีจนเรียกได้ว่าแพ้ย่อยยับ มาสดี้ ตระหนักรู้ทันว่าเขาไม่สามารถที่จะสร้างเจ้าเครื่องติดต่อสื่อสารนี้ได้สำเร็จแน่นอนแต่อย่างน้อยเจ้าเครื่องนี้และเจตจำนงของเขาต้องถูกส่งต่อให้คนในอนาคตได้ศึกษาและวิจัยต่อไปเขาจึงบอกให้ลูกทีมเก็บเอกสาร พิมพ์เขียว และเครื่องสื่อสารกับอีกโลก เก็บลงในหีบที่ใส่รหัสลับพร้อมคำใบ้ข้างหน้าเพื่อที่จะได้มีคนที่ฉลาดพอจะนำเจ้าเครื่องนี้ไปพัฒนาต่อและทำให้ทฤษฏีของเข้ากลายเป็นความจริง แล้วเขาก็ทำใจหลังจากนั้นก็ บึ้ม!!!!!