“มานานหรือยังจ่อย”
เสียงเรียกจากเพื่อนสนิทดังขึ้นจากด้านหลัง แทรกเข้ามาในความคิดที่กำลังล่องลอย ทำให้หญิงสาววัยยี่สิบสามปีเบือนหน้ากลับมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน
“เกือบชั่วโมงแล้วจิน” เธอบอกอย่างไม่เดือดร้อน แต่คนฟังถึงกับทำตาโต
“นังบ้า! ทำไมมาเร็ว นี่ฉันมาตรงเวลานะยะ บอกซะก่อน” ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าค้อนตากลับไม่ต่างจากสาวๆ ทั้งที่ลักษณะที่เห็นภายนอกเป็นชายหนุ่มทั้งแท่งในชุดเครื่องแต่งกายแบบเรียบๆ กางเกงผ้าสีเข้มเสื้อเชิ้ตสีอ่อนเช่นเดียวกับหนุ่มออฟฟิศทั่วไป แต่ที่ทำให้น่าดูคือรูปร่างสูงเพรียวผิวออกขาวแลดูสะอาดสะอ้าน
เขาเดินมาอย่างไม่เร่งร้อน แต่ความร้อนด้านนอกอาคารทำให้ถึงกับเหงื่อซึม จึงโบกมือเรียกบริกรเพื่อสั่งเครื่องดื่มเป็นอันดับแรก
“ขอน้ำมะเขือเทศปั่น”
“หันมาดูแลสุขภาพนี่เอง มิน่าผิวดี ดูอ่อนไปหลายปี” เธอแกล้งเย้า อีกฝ่ายทำหูทวนลมส่งยิ้มหวานให้กับหนุ่มน้อยที่รับออร์เดอร์ แล้วจีบปากตอบ
“หมายถึงอะไร หน้าหรือสติปัญญา”
“มุกนี้เขาไม่เล่นกันแล้ว ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาสร้างโลก”
“มุกพระเจ้าเหาเขาก็ไม่เล่นกันแล้วเหมือนกัน นังแก่!”
สาวน้อยหัวเราะออกมาอย่างถูกใจดวงตาแวววับด้วยความสุข ขัดกับท่าทีอ่อนล้าเหม่อลอยที่เห็นก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับเหว เธอมองคนตรงหน้าอย่างยินดี ความทรงจำของคืนวันแสนสุขในวัยเรียน ราวกับจะอบอวลอยู่รอบตัวอีกครั้ง
จิตตินเป็นเพื่อนรุ่นพี่อายุมากกว่าสองปี ตอนที่ช่อรักเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกเขาเป็นรุ่นพี่ปีสามแต่เพราะเขาเป็นญาติสนิทกับธัญวดีเพื่อนรักของเธอ ทำให้รู้จักคบหากันต่อมาจนถึงบัดนี้ โดยที่อีกฝ่ายไม่ยอมแทนตนเองว่าพี่
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” คนที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจกลับมองเห็นความผิดปกติ
เพื่อนรุ่นน้องใบหน้าสดใสด้วยวัยเยาว์แต่ประกายตาหม่นหมอง
“หน้ายังไง” คนถูกทักลูบหน้าฝืนยิ้มแต่รู้ดีว่าปิดบังอีกฝ่ายไม่ได้ ในความเป็นคนคล่องแคล่วปากไวจิตตินมีความละเอียดอ่อนบางอย่างที่ทำให้ไม่อาจมีความลับระหว่างกัน
“หน้าหมองๆ ตาลอยเหมือนคนไม่มีความมั่นใจ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเศร้า ดูมีความสุขแค่ประเดี๋ยวประด๋าว คนแต่งงานใหม่มันน่าจะสดชื่นกว่านี้ แต่นี่เหมือนอมทุกข์” เจ้าตัวแจกแจงเป็นข้อๆ
“เก่ง ยังเก่งเหมือนเดิม รู้ใจไปหมด อยากได้จินพกติดตัวไปไหนทุกที่เป็นตุ๊กตาลูกเทพ”
“งานอย่างฉันมันต้องเดาอารมณ์ลูกค้า แค่ขมวดคิ้วหรือมุมปากกระตุกนิดเดียวต้องรีบปรับกลยุทธ์ ไม่อย่างนั้นก็ขายของไม่ได้ นี่หน้าแกเหี่ยวซะขนาดนั้นทำไมจะดูไม่ออก” เขาหยุดชั่วครู่เพื่อรับน้ำมาจิบตามด้วยน้ำมะเขือเทศแก้วโต แล้วจึงพูดต่อ “ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ สถานการณ์กับผัวหล่อน” อีกฝ่ายถามตรงๆ
ช่อรักยังคงยิ้มแต่อาการพยักหน้าน้อยๆ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับโดยดุษฎี