“จูบเลย…จูบเลย…จูบเลย ……”
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทั่วพื้นที่ของการจัดงาน แสงไฟวูบวาบจากกล้องของนักข่าวและสื่อแขนงต่างๆ ร่วมทั้งสื่อนอกที่ไล่ติดตามข่าวความสัมพันธ์ลับๆระหว่างนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หนุ่มใหญ่กับสาวน้อยชาวเอเชียไร้นาม แสงวับวูบวาบพึบพับเกิดขึ้นจนนับครั้งไม่ถ้วน
“จูบเลย…จูบเลย…จูบเลย ”
เสียงกองเชียร์ยังดังเป็นจังหวะพาดวงใจดวงน้อยของหญิงสาวที่ยืนเด่นอยู่ในชุดราตรีสีขาวมุกให้โลดเต้นกระเจิง เธอหันซ้ายแลขวามองใบหน้าของแขกเหรื่อที่ยื่นยิ้มมาสลับกับดวงหน้าของผู้เป็นย่าและบิดาอย่างต้องการหาตัวช่วย แล้วมุมมองที่เวียนหนีห่างจากร่างสูงที่ยืนเคียงข้างก็ค่อยๆเวียนกลับมาบรรจบลงตรงที่เดิม ที่ใบหน้าคมสันของเขา อีกครั้ง
“อย่านะ คุณฟรานซิส” เสียงขู่ลอดไรฟันดังมาจากปากรูปกระจับสวยสดที่ถูกแต้มแต่งด้วยลิปสติกสีชมพูเข้มกว่าปกติ มันกำลังขยับน้อยๆ แย้งเสียงเชียร์กึกก้องของแขกในงาน ใครจะไปนึกว่าสาวน้อยกระโดกกระเดกที่วันๆ เอาแต่ใส่ยีนส์สีหม่นเทาๆ ขาดเข่าบ้าง ขาดหน้าขาบ้างพอจับให้มาอยู่ในชุดเจ้าสาวชนิดเปิดไหล่โชว์ผิวเนียนลออนั้น เธอช่างน่าหลงใหลเสียนี่กระไร ความโดดเด่นออร่าสดใสกระทบแสงไฟที่สาดส่องลงมาส่งผลให้คนที่ยืนเคียงข้างมิอาจละสายตาไปจากร่างอรชรตรงหน้าได้เลย
“จูบเลย…จูบเลย…จูบเลย …”
เสียงเชียร์ยังดังกึกก้องไม่ขาดสาย เรียกสติของเขาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน คาร์ลขยับกายเข้าหาก่อนคว้าเอวบางของเจ้าสาวเข้ามาประชิดอย่างถือสิทธิ์ ร่างอรชรตรงหน้ามีท่าทีตกใจเล็กน้อยและขืนตัว
“อย่า! อย่านะ” เสียงทัดทานยังดังแย้งเสียงโห่ร้องที่ยังก้องไม่ยอมหยุด
“แค่หนึ่งฉาก” เขาเอ่ยกระซิบแผ่ว ขณะที่จมูกโด่งและริมฝีปากหยักได้รูปของเขาค่อยๆ เคลื่อนลงหา ก่อนที่มันจะประทับปิดลงบนเรียวปากนุ่มของเธออย่างแผ่วเบาแสนนุ่มนวล