...เมื่อภารกิจทำให้ "เธอ" ได้เจอ "เขา" เจ้าพ่อมาเฟียค้าอาวุธที่ได้ฉายาในวงการว่า "จอมซาตาน"
หมับ!
แขนแกร่งโอบเอวบางแล้วรั้งเข้าหาเล็กน้อย จมูกโด่งสูดดมความหอมจากเส้นผมดำขลับก่อนจะลงจูบเบาๆ ที่ต้นคอขาวแล้วจบลงที่ไหล่ขาวมนที่โผล่พ้นเสื้อคอวีกว้างสีขาว หลังจากดอมดมจนหนำใจก็เอาคางหนาเกยไหล่บางแล้วมองวิวด้านนอกที่เป็นทะเลกว้างสีเดียวกับนัยน์ตาของเขา
“สวยมั้ย ฉันซื้อเป็นเรือนหอของเราเลยนะ”
“ฉันจะกลับบ้าน”
น้ำมนต์ไม่ดิ้น ไม่ขืน มีเพียงน้ำเสียงเย็นๆ แข็งๆ เท่านั้นที่แสดงออกมา แฮคเตอร์ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ลงทุนลักพาตัวจากสนามบินมาไว้ที่วิวล่าที่เขาเพิ่งซื้อก่อนที่จะให้คนพาเมียแสนงอนมาไม่กี่ชั่วโมงเพื่อสร้างความประทับใจกลับไม่ได้ผลอะไรเลย ยายเมียใจแข็ง!
“ไม่ให้กลับ” เขาพยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ทำร้ายจิตใจเจ้าหล่อนอีก เขาอยากจะง้อไม่อยากให้งอนหนักกว่าเดิม
“แต่ฉันจะกลับ!” น้ำมนต์หันมาเผชิญหน้ากับคนตัวโต ใบหน้าโกรธจัด แทบจะหาอะไรใกล้ๆ มือมาเขวี่ยงใส่ “คุณทำแบบนี้มันไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นมาเลยซักนิด กลับทำให้ฉันเกลียดคุณมากกว่าเดิม! อื้อ!!”
แฮคเตอร์จัดการมอบจุมพิตพิพากษาเมียแสนพยศของเขาทันทีที่เจ้าหล่อนพูดคำว่าเกลียดเขาออกมา เขาไม่ชอบคำนี้ โกรธกันได้ งอนกันได้ แต่ห้ามเกลียดเขา!
“อื้อ! แฮค! แฮคปล่อย! ฉันหะ… โอ๊ย!” แฮคเตอร์จูบน้ำมนต์ด้วยความดุดันเหมือนครั้งที่เขาลงทัณฑ์เธอด้วยวิธีป่าเถื่อน รสเลือดคลุกยังเคล้าในโพรงปาก แต่ซาตานร้ายแห่งมาครอฟก็ไม่ยอมหยุด จนน้ำมนต์จะทรุดอยู่ในอ้อมกอดเขาจริงๆ เพราะไม่มีอากาศหายจนั่นแหละเขาถึงจะยอมปล่อย แต่ใบหน้าคร้ามก็ไม่ละไปไหน ริมฝีปากหนายังคลอเคลียอยู่กับใบหน้านวลไม่ห่าง
“อย่าพูดว่าเกลียดกันอีก เธอไม่มีสิทธิ์มาเกลียดฉัน น้ำมนต์!”