บทนำ
พี่ชายกับน้องสาว
เกาะฮ่องกง
รถตู้คันหรูสีดำขับเคลื่อนบนทางถนนทอดสายไปยังคฤหาสน์หลังมหึมาในอาณาเขตส่วนบุคคลของตระกูลเฉิน
เส้นทางเดินรถปกคลุมด้วยไม้สูงเรียงรายเหมือนไม้ในสวนสาธารณะ บนรถมีคนขับในชุดสูทสีดำผูกเนกไทสีเดียวกันนั่งประจำตำแหน่งบังคับพวงมาลัยรถ
คนขับรถกำลังพานายน้อยของตระกูลกลับมาที่บ้านหลังกลับจากงานสังคมเพื่อการกุศลงานหนึ่ง
รถขับเข้าซอยมาไม่ไกลก็มาถึงสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่สไตล์นีโอคลาสสิกตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
นายน้อยหนุ่มฝากสูทตัวนอกไว้กับแม่บ้านร่างท้วมก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะมาหยุดยืนหน้าประตูห้องนอนพร้อมกับเคาะประตูหนึ่งครั้ง
นายหญิงของเขาลุกจากเตียงสี่เสาสไตล์โรมันมาเปิดประตูห้องให้สามี เธอรู้ดีว่าเป็นเขาเพราะเขาจะเคาะเรียกเพียงครั้งเท่านั้น แต่หากเป็นคนดูแลหรือแม่บ้านจะเคาะสองครั้ง
ฝ่ามือเขายกยื่นไล้แก้มเธอก่อนจะโน้มลงหอมหนึ่งฟอด...
เขาทำเพียงแค่นี้ตลอดหนึ่งปีที่แต่งงานกันมา!
-เฉินไป๋หลิน-
ฉันคิดว่าฉันกับสามีของฉันเป็นคู่แต่งงานที่แปลกที่สุดในโลกนี้เลย เขาไม่เคยล่วงเกินฉันแม้ว่าเราจะแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งที่เรานอนห้องเดียวกัน บนเตียงหลังเดียวกัน แต่เขาไม่เคยสัมผัสฉันนอกเหนือไปจากการกอดและหอมแก้ม
ฉันยอมรับว่าฉันปรารถนากายเขาและอยากให้เขาสัมผัสฉันนอกเหนือไปจากนั้น แต่จะให้ฉันบอกเขาได้ยังไง
ฉันคิดว่ามันน่าอายเกินไปที่จะบอกสิ่งที่ต้องการในใจให้เขารู้ >____<
ไม่มีใครรู้ว่านอกจากฉันจะปรารถนากายเขา ฉันยังปรารถนาสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น นั่นก็คือหัวใจของเขา
เพราะเขายังไม่ได้รักฉันเลย...
เขาแค่เอ็นดูฉันเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ฉันคิดว่านั่นคือเหตุผลที่เขาไม่มีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับฉัน
เขาเห็นฉันเป็นแค่น้องสาว แต่ฉันคิดกับเขาแค่พี่ชายไม่ได้
ทำไมน่ะเหรอ...
เพราะเขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์มากเลยไงล่ะ ผู้หญิงมากมายในเกาะฮ่องกงต่างก็อิจฉาฉันที่ได้แต่งงานกับเขาและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาแต่เพียงผู้เดียว
หลายคนเกลียดฉันเพราะฉันเป็นแค่เด็กข้างถนน กินไก่ย่างข้างทางไปวันๆ แต่กลับได้ดิบได้ดีเพราะได้ครอบครัวของเขาชุบเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
ฉันมีชีวิตที่สุขสบายได้เพราะครอบครัวของเขาเมตตาฉัน นี่คือเหตุผลที่ฉันรักเขา เพราะไม่ใช่แค่พ่อกับแม่ของเขาเท่านั้นที่เมตตาฉัน แต่เขาเองก็ดีกับฉันมาก
มากจนฉันรัก...
ฉันมักเรียกเขาว่าคุณป๋าเหมือนที่ฉันเรียกพ่อของเขาเพราะสำหรับฉันเขาเปรียบเหมือนพ่ออีกคนหนึ่ง
ทำไมน่ะเหรอ
เพราะเขาแก่กว่าฉันตั้งสิบปีน่ะสิ ปีนี้ฉันเพิ่งจะสิบเก้าปีแต่คุณป๋าของฉันอายุย่างเข้าเลขสามแล้ว ฉันแต่งงานกับเขาตอนฉันอายุสิบแปดซึ่งก็คือปีที่ผ่านมานี้เอง
ที่ฉันได้แต่งงานกับเขาเพราะฉันเป็นคนขอ
ได้ยินไม่ผิดหรอกนะ...ฉันบอกกับพ่อกับแม่ว่าฉันรักเขา บอกว่าฉันอยากเป็นเจ้าสาวของเขา
ฉันบอกในวันที่รู้ว่าท่านทั้งสองกำลังมองหาหญิงสาวสักคนมาแต่งงานกับลูกชายเพื่อสืบทายาท
พ่อกับแม่ไม่ขัดฉันเพราะลึกๆ ฉันรู้ว่าพ่อกับแม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา เขาเองก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา แต่เขาแค่ไม่คิดว่าฉันจะออกตัวแรงเสนอตัวเป็นแม่ของลูกเขา
เขาตอบตกลงแต่งงานกับฉันอย่างที่ฉันต้องการก็จริง...
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ได้รักฉัน
สำหรับเขาฉันคือน้องสาวที่อยู่ในสถานะภรรยา
คืนนี้แม้ว่าฉันจะอยู่ในชุดนอนสายเดี่ยวที่บางเบามากๆ ก็ไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์เขาได้ อาจเพราะก่อนนี้หน้าเขาเพลิดเพลินกับหญิงสาวมามากมายจนอาจเบื่อเรื่องบนเตียงไปแล้วก็ได้
เขารักฉันเหมือนน้องสาวก็เลยไม่แตะเนื้อต้องตัว กลับกันกับฉันที่อยากให้เขาสัมผัส อยากเสพรักและมีลูกกับเขา
เขาไม่รู้หรอกว่ารูปร่างสูงสมส่วนกับลายสักสีน้ำมันบนตัวเขามันเย้ายวนใจฉันแค่ไหน
ฉันลูบไล้ลาดไหล่โค้งมนของเขาขณะเขานั่งลงบนเตียงให้ฉันแกะยางรัดผมให้ เขาไว้ผมยาวประบ่าสไตล์หนุ่มเซอร์ แต่จะสางด้วยหวีจนเนี้ยบและขมวดมัดไว้อย่างเรียบร้อยเมื่อออกไปนอกบ้าน
คืนนี้ก่อนนอนเขาอยากสระผม ซึ่งนั่นคือหน้าที่ของฉันแหละ
-เฉินเหวินหยาง-
ผมรู้ว่าเด็กน้อยของผมโตเป็นสาวแล้วเพราะช่วงวัยของเธออยู่ในเกณฑ์ที่พร้อมสำหรับเสพรัก แต่ที่ผมไม่มีความสัมพันธ์กับเธอก็เพราะผมรักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว
ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่ ผมดีใจมากที่มีเธอเข้ามาเป็นน้องสาว
ตอนเด็กผมจำได้ดีว่าวันนั้นพ่อกับแม่พาผมไปกินซาลาเปาเจ้าเก่าซึ่งเป็นร้านเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าจีบกันใหม่ๆ
ผมเห็นไป๋หลินนั่งกินไก่ย่างอยู่หน้าร้านซาลาเปา เธอเป็นเด็กเร่ร่อนผ่านมาขออาหารตามร้านค้ากินเพราะเธอยังหาเงินเองไม่ได้
เธอได้ไก่ย่างสองไม้มาจากร้านขายข้าว และที่เธอมาที่ร้านนี้เพราะเธออยากกินซาลาเปา ผมเห็นซาลาเปาสามสี่ลูกในถุงในมือเธอก่อนที่ผมจะเดินเข้ามาในร้านกับพ่อและแม่
ขณะที่ผมกำลังกินซาลาเปาเจ้าอร่อยอยู่ เธอก็เดินเข้ามาในร้านหลังจากกินไก่หมดไม้แล้ว ผมกับพ่อแม่ยิ้มเมื่อได้ยินข้อแลกเปลี่ยนที่เธอยื่นให้เถ้าแก่เจ้าของร้าน
“ถ้าช่วยล้างจานจะได้ซาลาเปากี่ลูกคะ”
เธอคิดจะทำงานแลก เธอบอกว่าซาลาเปาสามสี่ลูกที่เถ้าแก่ให้มันไม่พอกิน
“สิบลูก” เธอตาลุกวาวแล้วรีบเดินไปล้างจานหลังร้าน
ผมเอ็นดูเธอตั้งแต่แรกเห็นและผมดีใจที่พ่อกับแม่ก็เอ็นดูเธอเหมือนกัน เพราะงั้นหลังจากที่เธอล้างจานจนได้ซาลาเปาสิบลูกแล้ว ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปเพราะครอบครัวของผมรับเธอมาดูแล
พ่อกับแม่ของผมท่านใจดีและท่านอยากเลี้ยงลูกสาวสักคน
เธอชอบตุ๊กตามาก คงเหมือนผู้หญิงทั่วไป เธอบอกผมว่าเธออยากได้ตุ๊กตา ตอนนั้นเราพาเธอไปเลือกซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า เธอบอกว่าเธออยากได้เพราะเธอไม่เคยมี
เธอหลั่งน้ำตาในตอนนั้น...
ผมพาเธอไปเลือกซื้อ เธอเลือกหมีสีขาวตัวใหญ่ ปัจจุบันหมียักษ์ตัวนั้นยังอยู่กับเธอ
และใช่ ตอนนี้มันอยู่กับผม...ในห้องนี้
เมื่อผมมองตุ๊กตาตัวนี้ผมก็มักคิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่ผมมีน้องสาวเพิ่มเข้ามาในชีวิต ผมไม่คิดว่าน้องสาวของผมคนนี้จะรักผมมากกว่าพี่ชาย
ตอนเด็กๆ เธอมักรบเร้าให้ผมเล่นเป็นเจ้าบ่าวและเธอเป็นเจ้าสาว ผมไม่คิดเลยว่าโตมาเธอจะกลายเป็นเจ้าสาวของผมจริงๆ...
พ่อกับแม่ดีใจที่เราแต่งงานกันเพราะพ่อกับแม่รักเธอมาก และท่านรู้ว่าเธอรักผมมาก ท่านมั่นใจว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนรักผมได้มากเท่าเธอ
ท่านทั้งสองเห็นดีเห็นงามให้เราแต่งงานกัน
ขณะสระผมเธอเผลอทำตัวเองเปียก จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจผมไม่รู้หรอก แต่น้ำที่เปรอะตัวเธอมันทำให้ชุดนอนบางๆ ของเธอแนบเนื้อ
และนั่นมันทำให้งานเข้าผมเต็มๆ ผมเห็นเต็มสองตาเพราะว่าปกติเธอไม่ใส่บรานอน ฉะนั้นเมื่อน้ำแนบเนื้อผ้าแบบนั้น...มันจึงทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน
ผมหันหน้าหลบสรีระของเธอ แต่แม้จะทำอย่างนั้นเด็กบ้านั่นก็ยังไม่หยุดป่วนผม เธอหยิบผ้าขนหนูซึ่งถูกพับไว้อย่างดีมาหุ้มตัวหลังจากเปลื้องชุดนอนเปียกๆ ออก
ใช่ ผมเหลือบเห็นเธอเปลือยก่อนที่ผ้าขนหนูผืนนั้นจะพันรอบตัวเธอ...
สติผมเตลิดอยู่สักพัก แต่มันก็แค่...สักพัก เพราะเมื่อผมนึกถึงเธอในวัยเด็ก ผมก็ยิ่งเอ็นดู ผมคงไม่ได้รักเธอมากไปกว่าน้องสาวจริงๆ
ผมยับยั้งอารมณ์ตัวเองได้และสามารถมานอนให้เธอกอดได้เหมือนทุกคืน แต่มันจะไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่นอนจนกว่า
จนกว่า...ผมจะรักเธอในฐานะคนรักจริงๆ