อ้ายเฟย...เมื่อไหร่เจ้าจะจำข้าได้
อ้ายเฟย...เมื่อไหร่เจ้าจะจำข้าได้
Romance Lover
Phoenix_C
เพิ่งผ่านคืนวิวาห์ที่เร้าร้อนกับคนรักไม่ทันครบวัน เมื่อนางตื่นขึ้นมาความทรงจำหายไป 3 ปีหนำซ้ำ ช่วงเวลานั้นเขาและนางเป็นอริกัน อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่เขาถึงจะได้ค่ำคืนยวนหยางครองคู่อีก สวรรค์ช่วยข้าด้วย! คนหนึ่งต้องการรั้งสตรีอันเป็นที่รักไว้ข้างกาย อีกคนหนึ่งต้องการหนีไปจากที่นี่ และเบื้องหลัง ความทรงจำที่หายไปสามปีของนางเป็นฝีมือของผู้ใด ติดตามได้ใน อ้ายเฟย...เมื่อไหร่เจ้าจะจำข้าได้
  • 1 ตอน
  • 377
นิยายโดย
  • 3 เรื่อง
  • |
  • 115 คนติดตาม
บทนำ

บรรยากาศภายในวังตะวันออกแห่งแคว้นชิงหลงเต็มไปด้วยความครึกครื้น เพราะวันนี้มีงานเลี้ยงฉลองพิธีสมรสพระราชทานระหว่างไท่จื่อซ่งซื่อฟง กับเพ่ยอวิ๋นเซียง ธิดาคนรองของแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นไป๋หู่ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นฉางหนิงกงจู่ ให้เดินทางมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีแก่สองแคว้น

และเนื่องจากไท่จื่อซ่งซื่อฟงนั้น เป็นโอรสที่หวงตี้แคว้นชิงหลงทรงโปรดปรานที่สุด ดังนั้นงานสมรสพระราชทานจึงเกิดขึ้นทันที หลังจากที่ขบวนเจ้าสาวได้เดินทางมาถึงที่นี่ได้เพียงหนึ่งวัน และแม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุก แต่ก็เป็นไปด้วยความราบรื่น

ห้องหอ

เพ่ยอวิ๋นเซียงนั่งครุ่นคิดอยู่บนเตียงนอนตามลำพัง นับตั้งแต่ทำพิธีเปิดผ้าคลุมหน้า ผูกผม ดื่มสุรามงคล และนั่งเตียงเสร็จสิ้นไปเมื่อเกือบหนึ่งชั่วยามก่อน เจ้าบ่าวก็ถูกนำตัวออกไปร่วมการดื่มสุราอวยพรจากแขกเหรื่อในงานเฉกเช่นในคืนงานแต่งงานทั่วไป สำหรับเจ้าสาวเช่นนางแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาที่พอจะได้พักผ่อนร่างกายให้คลายความเหนื่อยล้าจากพิธีการต่าง ๆ รวมถึงได้สงบจิตใจไปพร้อม ๆ กัน

เพราะถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะมีความสนิทสนมกับไท่จื่อซ่งซื่อฟงผู้เป็นเจ้าบ่าวไม่น้อย แต่ก็เป็นการคบหาภายใต้ขนบธรรมเนียมที่ดีงามระหว่างบุรุษสตรี หากในคืนนี้นางกำลังจะเข้าห้องหอและกลายเป็นไท่จื่อเฟยของเขาอย่างถูกต้องแท้จริง ในฐานะดรุณีไร้เดียงสา ย่อมมิอาจปฏิเสธได้ว่ารู้สึกหวั่นไหวและวิตกกังวลใจอยู่บ้าง

โชคยังดีที่ก่อนจะจากจวนแม่ทัพมา ท่านยายของนางได้มอบตำราปฏิบัติตนในห้องหอไว้ให้เล่มหนึ่ง ซึ่งเพ่ยอวิ๋นเซียงก็มิได้นิ่งนอนใจ หลายวันมานี้มักจะหยิบตำราดังกล่าวขึ้นมาพลิกอ่านและศึกษาในเวลาที่อยู่ตามลำพังระหว่างการเดินทาง ด้วยหวังว่ามันจะเป็นเช่นตำราพิชัยยุทธ์ที่ช่วยให้นางผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปอย่างไม่ยากเย็นนัก

ขณะที่เพ่ยอวิ๋นเซียงกำลังคิดถึงภาพอิริยาบถต่าง ๆ ของคู่รักในตำราเล่มนั้นด้วยอาการขัดเขิน ใบหน้าร้อนผ่าว จู่ ๆ เสียงกล่าวคำถวายพระพรของขันทีและนางกำนัลผู้มีหน้าที่คอยดูแลปรนนิบัติภายในเรือนของไท่จื่อเฟยก็ดังรับกันเป็นทอด ๆ เช่นเดียวกับเสียงฝีเท้าหนักแน่นและรีบเร่งของคนผู้หนึ่งที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ จนกระทั่งหยุดลงที่หน้าห้อง ก่อนประตูทั้งสองบานจะถูกผลักเข้ามาอย่างสุดแรง เผยให้เห็นบุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลา ท่วงท่าสง่างาม สวมใส่ชุดแดงปักลายมังกร เขาก็คือไท่จื่อซ่งซื่อฟง เจ้าบ่าวผู้ที่เพิ่งจะกลับมาจากการร่วมดื่มสุราอวยพรนั่นเอง

"เซียงเอ๋อร์ ในที่สุดพวกเราก็มาถึงวันนี้จนได้ ข้าดีใจเหลือเกินที่พวกเราจะได้เป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริงแล้ว" สีหน้าท่าทางของไท่จื่อแสดงชัดถึงความตื่นเต้นดีใจ พลางรีบปิดประตูห้องกลับดังเดิม แล้วเร่งฝีเท้า ก้าวไปนั่งที่เตียงเคียงข้างเพ่ยอวิ๋นเซียง

มือทั้งสองประคองใบหน้าผู้เป็นภรรยาให้เงยขึ้น ดวงตาสองคู่สบประสานกัน จนเพ่ยอวิ๋นเซียงไม่อาจทนต่อสายตาร้อนแรงของอีกฝ่ายได้ จึงเสหลบ แก้มทั้งสองข้างที่ร้อนผ่าวเป็นทุนเดิมพานแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด อย่างเห็นได้ชัด ไท่จื่อซ่งซื่อฟงจึงถือโอกาสถอดมงกุฎหงส์ออกจากศีรษะนาง ก่อนจะค่อย ๆ ดึงปิ่นปักผมทั้งหมดออก ให้เส้นผมดำขลับและยาวสลวยของนางที่ถูกเกล้าเอาไว้ ทิ้งตัวสยายลงบนแผ่นหลัง ขณะเดียวกันดวงตาของเขาก็มิได้ละจากใบหน้างาม มือข้างหนึ่งจับปอยผมขึ้นมาจุมพิต

"คืนนี้เจ้าช่างงดงามเหลือเกิน แม้ข้าจะคิดอยู่เสมอว่าเจ้างดงามตั้งแต่แรกเราพบกัน ทว่าเวลานี้กลับงดงามเป็นพิเศษ"

เพ่ยอวิ๋นเซียงได้ยินเขากล่าววาจาเช่นนั้น ใบหน้านางก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้น ยิ่งเห็นอีกฝ่ายหัวเราะชอบใจกับท่าทีของตน นางจึงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาค้อนควักกลับไปให้เขา แต่เมื่อสบสายตาร้อนแรงของเขาเข้าอีกครั้ง นางก็ขัดเขินจนต้องรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“วันนี้เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งพระองค์เองก็ทรงเมามายมากแล้ว หม่อมฉันจะเรียกขันทียกน้ำเข้ามาให้ทรงสรงนะเพคะ”

ซ่งซื่อฟงมีหรือจะไม่รู้ว่าเจ้าสาวของตนกำลังกระดากอายเพียงใด นางคงตั้งจะใจชะลอเวลาเข้าหอ แต่มีหรือที่เขาจะยอมเสียเวลาอีก กว่าจะถึงตอนนี้เพ่ยอวิ๋นเซียงไม่รู้หรอกว่าเจ้าบ่าวของนางต้องอดทนรออย่างยากลำบากแค่ไหน ๆ

"เซียงเอ๋อร์ เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่าเวลาในคืนวันแต่งงานมีค่ากว่าพันตำลึงทอง ข้าไม่อาจปล่อยให้มันล่วงผ่านไปมากกว่านี้แล้ว" ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ก้มลงไปจูบริมฝีปากที่แดงระเรื่อเช่นเดียวกับผลอิงเถา (เชอรี่)

เมื่อริมฝีปากของซ่งซื่อฟงทาบทับลงบนริมฝีปากของเพ่ยอวิ๋นเซียง เขาใช้ฟันขบกัดริมฝีปากล่างของนางเบา ๆ จนอีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะอ้าปากร้องด้วยความตกใจ ลิ้นหนาก็สอดเข้าไปในโพรงปาก แล้วเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็ก ๆ ของนางไว้จนไม่อาจส่งเสียงใดๆ ได้

ขณะที่จุมพิตอันนุ่มนวลเริ่มที่จะทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มือของผู้เป็นเจ้าบ่าวก็เริ่มซุกซน ปลดเปลื้องชุดวิวาห์ของเจ้าสาวออกอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตาร่างเพ่ยอวิ๋นเซียงที่ถูกดันให้เอนกายให้นอนราบลงไปบนเตียงก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างจากตัวของเขาเอง

ลมหายใจของซ่งซื่อฟงหนักหน่วงขึ้นขณะ รับกับจังหวะของฝ่ามือทั้งสองข้างที่กอบกุม ฟอนเฟ้นปทุมถันคู่งามอย่างสนุกมือ เมื่อเริ่มรู้สึกว่าผู้ที่อยู่ใต้ร่างเริ่มมีอาการหายใจติดขัด เขาจึงถอนริมฝีปากออกเพื่อไปหาเป้าหมายใหม่

ริมฝีปากได้รูปค่อย ๆ ละเลียด รสสัมผัสเนียนนุ่มจากผิวกายขาวละเอียดของนางอย่างช้า ๆ สร้างร่องรอยสีกุหลาบจากการดูดดุนและเล็มไล้ไปทั่วทุกจุดที่ลากผ่าน ไม่ต่างจากผีเสื้อที่โบยบิน แวะดูดดื่ม ดมดอมมวลดอกไม้อยู่ในดงบุปผชาติ

และเพียงไม่นานนัก ภมรหนุ่มก็พบกับยอดเกสรดอกบัวสีชมพูชูชันยั่วยวนสายตา จนเขาต้องหยุดครอบครองเพื่อลองลิ้ม และชิมความหวานอย่างตั้งอกตั้งใจ มืออีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ปทุมแฝดอีกข้างเหงาหงอย ยังคงบีบเคล้น สลับกับการใช้สองนิ้วคีบเขี่ยปลายยอด บดคลึงอย่างแผ่วเบา เรียกเสียงครางหลุดจากปากเจ้าสาวของเขาโดยที่นางเองก็ไม่รู้ตัว

แม้เพ่ยอวิ๋นเซียงจะเคยศึกษาตำราในห้องหอที่มารดามอบให้ แต่ก็ยังเขินอายเกินกว่าจะนำมาปฏิบัติในเวลานี้ จึงได้แต่ปล่อยให้เจ้าบ่าวของนางเป็นผู้นำทางเพียงฝ่ายเดียว

ส่วนซ่งซื่อฟงนั้นเล่า ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายเอาแต่นอนนิ่งไม่ไหวติงใดๆ มีแค่เสียงครวญครางที่ดังอยู่เป็นระยะจากคนที่หลับตาส่ายหน้าไปมาราวกับกำลังฝันร้าย เขาก็ยิ่งนึกอยากกลั่นแกล้ง มือข้างที่ว่างอยู่จึงเริ่มลูบไล้ต่ำลงไปเบื้องล่าง กระทั่งพบเข้ากับประตูหยกที่ปิดสนิทแน่นคู่หนึ่ง

ไท่จื่อแห่งแคว้นชิงหลงไม่รอช้าที่จะลูบคลำค้นหากลไกพิเศษที่จะช่วยให้ประตูหยกทั้งสองบานเปิดแง้ม เพื่อให้เขาได้เข้าไปสำรวจภายในนั้น ปลายนิ้วของซ่งซื่อฟงลูบไล้ปุ่มกลไกนั้นอยู่ไม่นานนัก เขาก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่เริ่มไหลซึมออกมาตามรอยแยกของประตู พร้อมกับร่างของผู้เป็นเจ้าสาวที่แอ่นตัวขึ้นคล้ายดังคันศร ริมฝีปากจิ้มลิ้มถูกฟันซี่น้อยๆ ขบเม้มไว้ไม่ให้เผลอส่งเสียงน่าอับอายออกมา

เมื่ออีกฝ่ายรู้สึกได้ว่านางพยายามที่จะฝืนอารมณ์ของตนเอง เขาจึงผละริมฝีปากจากยอดเกสรชั่วคราว แล้วเลื่อนใบหน้าไปกระซิบข้างหู

"เซียงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกเช่นไรจงปลดปล่อยมันออกมาเพื่อข้า ทุกอย่างที่พวกเราทำเกิดจากความรัก ไม่ใช่เรื่องน่าอายอันใด" จากนั้นซ่งซื่อฟงก็ใช้ฟันขบที่ติ่งหูนางเบาๆ

------------------ใครอยากNC ตามได้ในไลน์นะคะ------------

ขณะที่ในห้องหอเต็มไปด้วยความเร่าร้อนอันแสนหวาน แต่นอกห้องหอคืนนี้ ยังมีอีกหลายคนที่ไม่อาจข่มตาหลับลงได้

-------------------------------

ขอโทษที่หายไปนาน ไรท์มัวแต่ยุ่งกับงานหลักอยู่ค่ะ ตอนนี้ไรท์โดนผู้บริหารทั้งหลายของเฟยฮุ่ย ไล่ให้กลับมาเป็นนักเขียน ช่วงนี้เลยเคาะสนิมหนักหน่อย ร่วงกราวตามพืิ้น แต่ก็ยังมีเกาะอยู่อีกมาก แต่ทุกคนไม่ต้องห่วง ไรท์ไม่ทิ้งเรื่องภารกิจพลิกชะตาฟ้าแน่ค่ะ แต่ตอนนี้ขอทำงานของเฟยฮุ่ยออกมาก่อนนะคะ (ไม่ค่อยงก) เหมือนเดิมค่ะ ใครอยากอ่าน NC เข้ากลุ่มไลน์ได้เลยค่ะ Line Phoenix-cเข้ามาแล้วเคาะเรียกขอเข้ากลุ่มด้วยนะคะ ไรท์จะได้addเข้าไปในกลุ่มให้อ่าน ncจะอยู่อัลบั้ม เริ่มอ่านได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ 11 โมงนะคะ

ใครอยากอ่านตอนต่อไปยกมือขึ้น ขอคอมเม้นหน่อยค่ะ หายไปนานคิดถึงรีด


เกี่ยวกับนักเขียน
3 เรื่อง 115 คนติดตาม