เพราะอกหักจาก ภาณุมาศ พี่ชายบุญธรรม จึงทำให้ นลิน ตัดสินใจหลบไปรักษาแผลใจที่เรือนแพของ ปวาฬ น้าชายของ รักษ์สิกา เพื่อนตัวดีที่แอบหวังไว้ลึกๆ ว่าจะต้องทำให้นลินลงเอยกับน้าชายมาดกวนของตนเองให้ได้
แต่จนแล้วจนรอดความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้ก็ดูท่าจะไม่มีวี่แววตกล่องปล่องชิ้นกันได้เสียที กลับกลายจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันเสียมากกว่า
ปวาฬหรี่ตามองวงหน้าหวานที่บอกบุญไม่รับและท่านั่ง ‘สุดแสนจะร้อยเรียบ’ ด้วยใบหน้าเรียบสนิท
“ใส่กระโปรงนั่งแบบนั้นจะดีเหรอ?”
“มันเรื่องของฉัน”
“งั้นฉันจะถือว่าเธออ่อย” ชายหนุ่มบอกหน้านิ่ง
นลินเลยรีบเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งพับเพียบทันที “พูดมาสิ ฉันรอฟังอยู่”
“ข้อแรก... ฉันต้องการความสงบ เพราะกลางวันฉันทำงานที่นี่”
นลินพยักหน้า เขาจะทำงานอะไรก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับเธอทั้งนั้น เพราะสิ่งที่เธอต้องการ คือความสงบเช่นกัน “รับรองว่าฉันไม่ทำเสียงดังรบกวนสมาธิของคุณแน่”
“ดี งั้นก็ถอดมันออกซะ” คนออกคำสั่งชี้นิ้วไปที่ข้อเท้าเธอ
“ถอดไอ้เนี่ยเหรอ” นลินย้อยถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะสร้อยข้อเท้าห้อยลูกกระพรวนไม่ได้เสียงดังสนั่นน่ารำคาญอะไร แต่ปวาฬก็พยักหน้าแล้วให้เหตุผล
“รำคาญเสียงลูกกระพรวน”
คนถูกออกคำสั่งเม้มปากอย่างขัดใจ เพราะสร้อยข้อเท้าเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่เธอชื่นชอบ และไม่เคยคิดที่จะถอดมันออกเลย
“คุณบอกว่าต้องการความสงบ เพราะกลางวันจะทำงานที่นี่ใช่มั้ย?”
“ใช่”
“ตอนนี้คุณยังไม่ทำงาน และไม่ใช่กลางวันด้วย ฉันถอดพรุ่งนี้คงไม่มีปัญหา” หญิงสาวยักคิ้วให้กวน ๆ ทำเอาปวาฬถอนฉุน เขามองหญิงสาวด้วยความไม่พอใจ แต่นลินก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้
“ไม่มีปัญหา ถ้าเธออยากงัดข้อกับฉัน”
นลินแอบเบ้ปาก ปวาฬเลยบอกเงื่อนไขข้อต่อไป
“ข้อสอง ห้ามเธอพาคนนอกเข้ามาวุ่นวายที่นี่เป็นอันขาด”
“รักษ์สิกาล่ะ คุณนับเธอเป็นคนนอกด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่นับยัยสิกา”
นลินไหวไหล่ “เรื่องนี้คุณสบายใจได้ ฉันไม่พา ‘ตัวภาระ’ มาเพิ่มให้คุณได้รำคาญลูกตาแน่”
“ดี”
“แค่นี้ใช่ไหมข้อตกลงของคุณ”
ปวาฬส่ายหน้าช้า ๆ “ข้อสาม เธอต้องช่วยดูแลความสะอาดบ้านหลังนี้”
“เฮ้ย! มากไปหรือเปล่า ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของคุณนะ” หญิงสาวผลุดลุกขึ้นทันที