จอมราชขบกรามแน่นในยามที่ปลายนิ้วเล็กๆ จิ้มลงตรงรอยแผลเป็นบนร่างกายเขา ยอมให้ความอยากรู้อยากเห็นของเธอทำลายความเป็นเขาเรื่อยๆ ยิ่งใบหน้าเล็กโน้มต่ำเพื่อมองรอยนั้นชัดๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจลำบาก
“งานที่เหมืองคงหนักมาก แต่รอยแผลเป็นทำให้ดูเท่ไปอีกแบบ” โชคดีที่เธอเงยหน้าขึ้นก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ฟิวส์ขาดแน่ “เดี๋ยวพู่เอาผ้าไปตากก่อน เปิดแอร์ไม่แรงนะคะ เกิดพี่บ่นขึ้นมาอีกว่าหนาว พู่ขี้เกียจลุกมาปิดให้” เธอถอยห่างทำให้เขาหายใจได้โล่ง แต่พอกลับมาอีกพร้อมกับความมืดในห้องก็ทำให้จอมราชตัวแข็งทื่อขึ้นอีกครั้ง
หลังจาก ‘แข็ง’ เป็นหินไปเมื่อตอนหญิงสาวเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ไปแล้วรอบหนึ่ง
มณีดาราทรุดตัวลงนอนโดยไม่สนใจอีกคน เพราะเธอเห็นเขาล้มตัวลงนอนแล้วก็คิดว่าชายหนุ่มน่าจะหลับไปแล้ว แต่แล้วคนตัวเล็กก็หวีดร้องอย่างตกใจเมื่อร่างหนาใหญ่ของชายหนุ่มพลิกกายเธอให้หันไปเผชิญหน้า พร้อมกับคร่อมไว้ด้วยแขนแกร่งทั้งสองข้าง
“พี่จอม!”
สิ้นเสียงเรียกอย่างตื่นตระหนกนั่น ชายหนุ่มก็ประกบริมฝีปากลงหาอย่างแม่นยำราวกับจับวาง เขาขบกัดพร้อมละเลียดไล้เลียให้หญิงสาวยอมเผยอความนุ่มนิ่ม ก่อนจะสอดแทรกปลายลิ้นไล่ตวัดรัดและชิมความหวานหยดจากแม่ตัวเล็กที่นับวันยิ่งป่วนใจเขาให้สับสนมึนงง
จอมราชอ้อยอิ่งอยู่กับความนุ่มแสนหวานอยู่หลายนาที เขาเบี่ยงริมฝีปากหลบก่อนจะจูบไซ้ไปตามผิวแก้มเนียน ก่อนจะวกกลับมาหากลีบปากอิ่มอีกครั้ง ดูดกลืนทุกสิ่งอย่างด้วยความกระหาย ร่างกายที่เต็มไปด้วยพละกำลังและกล้ามเนื้อสวยงามดั่งชายชาตรีกำลังปวดร้าว เรียกร้องให้เขาทำมากกว่านี้
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนี่ตอนที่เลิกกันใหม่ๆ ว่าอย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก” ปากหยักเอ่ยขึ้นหลังจากละเลียดความหวานไปได้ยังไม่ถึงครึ่งความรู้สึกที่เรียกว่าการพอใจ “เตือนแล้วใช่ไหมว่าถ้าเจอหน้ากันอีกครั้ง ...ฉันจะฆ่าเธอ”
เขาลงมือ ‘ฆ่า’ เธอ หลังจากจบคำพูดประโยคน่าหวั่นใจนั่น ชนิดที่มณีดาราไม่สามารถประท้วงใดๆ ได้ทั้งสิ้น