เรื่องมันยาว เอาเป็นว่าฉันจะทยอยเล่าให้คุณฟังละกัน ตอนนี้ขอตัวไปรับใช้ท่าน ผอ. เอ๊ย คุณพ่อท่านก่อนนะ ผู้อำนวยการฯ ท่านนี้ยิ่งอารมณ์ไม่คงเส้นคงวาอยู่ด้วย ความเฉยชาและความกระตือรือร้นของเขาเป็นเหมือนหูที่อยู่คนละข้างของใบหน้า ต่างแต่ว่าวันไหน จะใช้หูใดรับฟังคนเขาบางครั้งฉันน้อยใจจนต้องแอบร้องไห้ เช่นเดียวกับบางทีถึงกับอุทานเสียงดังลั่น
ฉันรัก ผอ.ที่ซู้ดในโลก...
ฉันมั่นใจว่าเขาเองหวงห่วงฉันยิ่งกว่าอะไรเสียอีกหรือว่าจริง ๆ แล้วเขาหิวฉันมากกว่า คนเรานี้ช่างแปลกนัก อยู่ต่อหน้าคนเป็นอีกแบบ ลับหลังเป็นอีกอย่าง ‘โลกคือละครวงใหญ่’ อย่างเขาว่าไว้ท่าจะจริง ยิ่งถักทาวหรือย้อนกลับ ชีวิตของพ่อและเพื่อนพ่อคนนี้เป็นยิ่งกว่านิยาย แต่ฉันไม่เบื่อที่จะฟัง ยิ่งได้นอนหนุนตักเขา ฟังเรื่องเล่าท่ามกลางแสงจันทร์ มันช่างเต็มไปด้วยรสชาติจริง ๆ เช่นเดียวกับเรื่องที่ฉันเล่าให้ท่านฟัง แม้ออกจะขมน้ำตาไปบ้าง
ทว่า ผอ.ท่านกลับไม่เบื่อจะรับรู้...
บอกแล้วไงว่าฉันจะทยอยเล่าไปทีละเปลาะ ๆ แต่ตอนนี้ขอไปต้อนรับท่าน ผอ.ก่อน เขาเดินเข้าบ้านมาแล้ว เมามาหรือเปล่าไม่ทราบ บีบแตรเสียงดังลั่นก่อนที่จะเปิดประตูรถลงมา
“ทำไมไม่เปิดไฟล่ะสุ?”
‘กลัวผี...’ คิดจะตอบไปตามตรงแต่ไม่ได้หรอกเดี๋ยวถูกด่าหาว่าอ่อนแอ กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น มนุษย์มนาด้วยกันน่ากลัวกว่าเป็นไหน ๆ มาถึงเขาจ้องหน้าฉันแล้วเปลี่ยนนิสัยเป็นเด็กซุกซนไปทันที “มามะ ให้หอมหน่อยลูกสาว...”
“หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะคะพ่อ?”
“ไม่เด็กล่ะดีแล้ว พ่อจะไม่ได้ติดคุก”