ข่าวทายาทเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวได้รับอุบัติเหตุอาการบาดสาหัสเป็นที่สนใจของหลายคน แม้แต่หญิงสาวในชุดเครื่องแบบสีขาวยังต้องวางปากกาจากการบันทึกชาร์ตของผู้ป่วย ก่อนจะหันไปตามทิศทางของเสียงทีวีที่ผนังห้องด้านหลังเคาน์เตอร์
ภาพขนาดเล็กของผู้บาดเจ็บที่ปรากฏขึ้นมุมด้านหนึ่งของจอนั้น ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงขึ้นทันที มือบางหยิบปากกาขึ้นมากำไว้แน่นอีกครั้งอย่างลืมตัว
"ดูสิน้ำ ช่องเคเบิ้ลออกข่าวคนดัง พี่หมอติณห์ของพวกเราก็พลอยดังไปด้วย ตัวจริงว่าดูดีแล้ว ยิ่งออกทีวีแบบนี้ยิ่งหล่อเป็นบ้าเลย!?”
ภาพของแพทย์หนุ่มคนเก่งประจำโรงพยาบาลกำลังให้สัมภาษณ์กับนักข่าว เกี่ยวกับอาการของคนไข้ที่หลายคนกำลังสนใจในตอนนี้ หากในยามปกติเธอคงอดชื่นชมกับความดูดีไม่มีที่ติของคุณหมอหนุ่มไม่ได้ แต่เพราะชื่อของคนเจ็บนั้นต่างหาก ทำให้หน้าของเพียงธารซีดขาวจนมินตราเพื่อนร่วมอาชีพสังเกตเห็นได้ จากที่สนใจข่าวก็เปลี่ยนมาถามเพื่อนสาวแทน
“เป็นอะไรหรือเปล่าน้ำ หน้าซีดเชียว”
"เปล่าจ๊ะ” คนหน้าซีดปฏิเสธหากแต่มือเล็กนั้นกลับสั่นเทาจนเจ้าของต้องบีบมันเอาไว้ การที่นายแพทย์ติณห์ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมกระดูกออกมายืนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแบบนี้ แสดงว่า ‘ผู้ชายคนนั้น’ ก็ต้องอยู่ที่นี้ด้วย
“จะเป็นลมหรือเปล่าหน้าเธอซีดมากเลยมือก็สั่นอีกด้วย พักก่อนดีไหม?” มินตราตรงไปหาเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
“มะ...ไม่เป็นไร..ใกล้ได้เวลาแจกยาแล้ว ฉันไปจัดยาก่อนนะ"
ร่างเล็กในชุดขาวกุลีกรุจอหันกลับไปยังห้องทรีมเม้นทันที เพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็นความผิดปกติ พอพ้นสายตาของเพื่อนสาว ร่างบางก็ถึงกับต้องใช้ผนังห้องเป็นที่พักพิง เพราะกลัวว่าจะทรุดลงไปจริงๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่คิดว่าจางหายกลับวิ่งขึ้นมากระแทกกับอกข้างซ้ายอย่างจังจนต้องยกมือขึ้นกุม
ขอบตาร้อนผ่าวพร้อมกับน้ำใสๆที่เออจนเกือบล้น เจ้าตัวหลับตาลงเพื่อซ้อนความเจ็บช้ำ แต่ภาพในอดีตกลับวิ่งเข้ามาให้หัวเป็นระรอก ยิ่งพยายามบอกให้ลืมแต่กลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดซ้ำๆตรงที่เดิมมากขึ้นเท่านั้น
ภาพของคนดังในข่าว ภาพใบหน้าอันหล่อเหลาที่สาวหลายคนเห็นแล้วต้องหลงใหล แต่สำหรับเพียงธารนั้น เขาไม่ต่างอะไรกับ ‘มัจจุราช ’ที่พรากผลาญเอาทุกสิ่งทุกอย่างของเธอไป