บทนำ
ณ ดินแดนหลังความตาย วิญญาณของผู้คนที่หมดอายุขัยจากโลกมนุษย์ และได้รับการตัดสินโทษเสร็จสิ้นแล้วล้วนต้องมาชดใช้เวรกรรมกันอยู่ ณ ที่แห่งนี้
สายหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งประปราย บรรยากาศเงียบสงบ มีสายลมเอื่อยพัดมาเป็นระลอกต้องบรรดาใบไม้และยอดหญ้าปลิวไสว
ดวงวิญญาณมากมายหลายดวงต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ในเขตรับผิดชอบของตน ในขณะเดียวกันโดยรอบบริเวณนั้นก็มีผู้คุมยืนประจำจุดเพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยไม่ไกลกันมากนัก
“แกรก แกรก”
เสียงกวาดใบไม้ดังมาเป็นระยะจากมุมหนึ่งด้านในสวนจันทรา ซึ่งในตรงนั้นมีร่างโปร่งแสงของวิญญาณหญิงสาวสองดวงที่การแต่งกายดูจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกำลังยืนกวาดใบไม้อยู่ด้วยกัน
“เธอตายได้ยังไงเหรอฮุ่ยเจียง”
ดวงวิญญาณสาวตนหนึ่งในชุดเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกางเกงยีนส์สีเข้มเอ่ยถามคนข้างกายด้วยความสงสัยใคร่รู้
หยางฮุ่ยเจียงดวงวิญญาณหญิงสาวจากยุคจีนโบราณซึ่งยังคงแต่งกายด้วยชุดแต่งงานสีแดงเพลิงที่กำลังก้มหน้าก้มตากวาดใบไม้อย่างสงบถึงกับชะงักมือไปนิดก่อนจะตอบอีกฝ่ายเสียงแผ่ว
“เรื่องมันยาวน่ะเลี่ยงซู ข้ากลัวว่าถ้าเล่าให้เจ้าฟังแล้วคงกินเวลาถึงตะวันตกดินกันพอดี”
“เล่าเถอะนะ เดี๋ยวถ้ากวาดตรงนี้เสร็จพวกเราก็ไม่มีอะไรทำแล้วนี่นา โลกหลังความตายนี่น่าเบื่อชะมัด ไม่มีความหิว ไม่มีความง่วง ได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ ฉันล่ะเบื่อมากเลย”
วิญญาณสาวจากยุคปัจจุบัน บ่นกระปอดกระแปดลากเสียงยาว จงใจเน้นความเบื่อหน่ายของตัวเองเรียกรอยยิ้มจากคนที่มาจากต่างยุคสมัยได้เป็นอย่างดี
เลี่ยงซูหญิงสาวที่เป็นถึงอดีตนักแม่นปืนมืออาชีพ โดยเธอนั้นกำลังจะได้เข้ารับการบรรจุเป็นนักกีฬาทีมชาติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แต่เธอดันไปเจอเข้ากับการลักลอบทุจริตของนายกสมาคมชมรมนักกีฬาแม่นปืนเข้าเสียก่อนจึงโดนสั่งเก็บแล้วทำให้ต้องตายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
เมื่อต้องตายเพราะโดนคนพวกนั้นปิดปากทั้งที่ตัวเองยังไม่ถึงเวลาหมดอายุขัย นักแม่นปืนสาวจึงต้องมาใช้เวลาอยู่ในโลกแห่งความตายแห่งนี้ให้ครบกำหนดเวลาเสียก่อนเธอจึงจะไปเกิดใหม่ได้
ต่างไปจากฮุ่ยเจียงที่แม้ว่าจะมาจากยุคจีนโบราณนานมากแล้วแต่เธอก็ยังไม่พ้นโทษ เนื่องจากว่าหยางฮุ่ยเจียงนั้นตายจากการถูกครอบครัวว่าที่สามีวางยาพิษจงใจใส่ไว้ในสุรามงคล
ซึ่งแม้ว่าฮุ่ยเจียงจะกินยาพิษเข้าไปและไม่ได้สิ้นลมในทันที แต่ฮุ่ยเจียงก็เลือกที่จะนอนทรมานรอความตายอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมกินยาถอนพิษที่หนิงเอ๋อหามาให้
นั่นจึงเท่ากับว่าฮุ่ยเจียงจงใจฆ่าตัวตาย บวกกับการตายของฮุ่ยเจียงนั้น สร้างความทุกข์ใจให้หยางจินหลวนผู้เป็นบิดาเป็นอย่างมาก หญิงสาวจึงต้องอยู่รับโทษยาวนานหลายร้อยปีเช่นตอนนี้นั่นเอง
ดวงวิญญาณของสองสาวต่างยุค เดินออกมาจากสวนจันทราบริเวณที่ทั้งสองคนรับผิดชอบร่วมกัน
ก่อนจะพากันเดินเลี้ยวเข้าไปในสวนดอกไม้ในขณะเดียวกันดวงอาทิตย์ก็คล้อยต่ำเริ่มใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มที ผิดกับอีกด้านหนึ่งดวงดาวมากมายก็เริ่มแข่งกันส่องแสงประกายวับวาม
“ข้าตายในวันแต่งงานของข้า”
ฮุ่ยเจียงยิ้มจางขณะที่พูดขึ้นมา แต่กลับไม่มีวี่แววของความเศร้าเสียใจปรากฏบนใบหน้างามแต่อย่างใด ทำให้คนฟังเบาใจไม่น้อย เพราะหากฮุ่ยเจียงสีหน้าไม่ดีเลี่ยงซูก็คงจะบอกให้หยุดเล่า
เลี่ยงซูพยักหน้าน้อย ๆ เพราะรู้ดีว่าทุกคนที่อยู่ในโลกหลังความตายแห่งนี้ล้วนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดสุดท้ายก่อนตายกันหมดรวมถึงตัวเธอเองด้วยเหมือนกัน
“ครอบครัวสามีวางยาพิษข้า หนิงเอ๋อ เอ่อ บ่าวคนสนิทของข้าน่ะ ได้ยาถอนพิษมาจากพ่อค้าคนหนึ่งเอามาให้ข้ากินแต่ข้าไม่ยอมกิน”
“อ้าวทำไมล่ะ”
เลี่ยงซูหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนเล่าด้วยความสงสัย อะไรกันนะที่ทำให้ฮุ่ยเจียงถึงตัดสินใจจะตายตั้งแต่ตอนนั้น
“ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่เจอคนพวกนั้นอีกแล้ว เจ้ารู้ไหม แม้จะผ่านมาเป็นร้อยปี ข้าก็ยังจำได้ไม่ลืมว่าในแววตาสามีของข้าไม่ได้มีความเสียใจเลยสักนิดทั้งที่ข้านอนทรมานรอความตายอยู่ตรงหน้าและเขาก็ยังไม่เคยออกหน้าปกป้องข้าเลยสักครั้ง”
“ฟังแล้วหงุดหงิดชะมัดเลย”
คนฟังบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจกับสิ่งที่ฮุ่ยเจียงต้องเจอ แอบคิดไปว่าถ้าเป็นตัวเองก็คงไม่มีทางยอมอยู่เฉยให้คนพวกนั้นรังแกอย่างเด็ดขาด!