ดวงตะวันกำลังลับขอบฟ้า ท้องฟ้าแต้มสีแดงส้ม ขณะสายลมเย็นพัดผ่านทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้น ไคร์ ชายหนุ่มผู้เดินทางโดดเดี่ยวในชุดเกราะเก่าซึ่งดูเหมือนผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชน กำลังเดินทางข้ามทุ่งกว้าง เขาแบกดาบใหญ่ไว้บนหลัง ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังเส้นขอบฟ้าด้วยความมุ่งมั่น

“อีกไม่นาน...” เขาพึมพำพลางหยิบแผนที่เก่าแก่ขึ้นมาดู มันคือแผนที่ที่พ่อของเขาทิ้งไว้ก่อนจากไป แผนที่นี้นำทางเขาไปยัง “หอคอยแห่งแสง” สถานที่ที่ว่ากันว่ามีคำตอบเกี่ยวกับ “อสูรแห่งสนธยา” สิ่งมีชีวิตที่ทำลายหมู่บ้านของเขาและครอบครัวเมื่อสิบปีก่อน

การพบพานครั้งแรก

เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากแนวป่าด้านหน้า ไคร์ตื่นตัวทันที เขารีบวิ่งไปยังต้นเสียง พบหญิงสาวในชุดคลุมสีม่วงกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายสิงโตขนาดใหญ่ มันมีหนามแหลมทั่วร่าง และกรงเล็บที่ดูเหมือนสามารถฉีกเหล็กให้ขาดได้

หญิงสาวผู้ใช้เวทมนตร์ดูมีฝีมือ แต่พลังของเธอไม่อาจสู้กับอสูรตัวมหึมาได้

ไคร์ตะโกน “ถอยไป!” แล้วพุ่งเข้าไปชักดาบใหญ่ฟันใส่อสูร ดาบของเขาทำให้สัตว์ประหลาดบาดเจ็บ แต่การต่อสู้นั้นดุเดือดและยืดเยื้อ

ในที่สุด ด้วยการประสานกันระหว่างดาบของไคร์และเวทมนตร์สายฟ้าของหญิงสาว พวกเขาสามารถจัดการอสูรได้สำเร็จ ร่างของมันทรุดลงก่อนจะสลายกลายเป็นเถ้าธุลี

หญิงสาวแนะนำตัวเองว่าเธอชื่อ เอลลา เป็นนักเวทผู้กำลังตามหาหนังสือโบราณในตำนานที่ถูกซ่อนอยู่ใน “หอคอยแห่งแสง” เช่นเดียวกับไคร์

“ดูเหมือนพวกเราจะมีจุดหมายเดียวกัน” ไคร์กล่าว พร้อมเช็ดดาบของเขา

“แต่ฉันไม่ไว้ใจใครง่ายๆ หรอก” เอลลาตอบกลับด้วยแววตาสงสัย

พันธมิตรใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ระหว่างการเดินทาง ไคร์และเอลลาพบกับบุคคลอีกหลายคนที่เข้ามาร่วมเดินทางด้วย

1. ราห์น นักรบเผ่าทะเลทรายผู้ถูกโจมตีโดยกลุ่มโจรป่า ไคร์ช่วยชีวิตเขาไว้ ราห์นมีเกียรติยศเป็นสิ่งสำคัญ และเขาขอติดตามกลุ่มเพื่อชดใช้หนี้ชีวิต

2. ฟินน์ โจรหนุ่มเจ้าเล่ห์ผู้พยายามขโมยแผนที่ของไคร์ แต่กลับถูกจับได้ ทักษะการลอบเร้นและความช่างพูดทำให้เขากลายเป็นส่วนสำคัญของกลุ่มโดยไม่คาดคิด

3. ไลล่า นักฆ่าสาวผู้ลึกลับที่ปรากฏตัวในคืนหนึ่ง เธอไม่ได้บอกเป้าหมายที่แท้จริง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะมีความเกี่ยวข้องกับ “หอคอยแห่งแสง”

เหตุการณ์แรก: หมู่บ้านต้องคำสาป

ขณะเดินทางผ่านภูเขา กลุ่มของไคร์พบหมู่บ้านเล็กๆ ที่ถูกปกคลุมด้วยหมอกดำทึบ ผู้คนในหมู่บ้านต่างหวาดกลัวและเล่าถึง “อสูรหมอก” ที่ออกมาไล่ล่าพวกเขาในยามค่ำคืน

“ถ้าพวกเราไม่จัดการมัน หมู่บ้านนี้คงไม่รอด” ราห์นกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

พวกเขาตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ป่าลึกที่อสูรซ่อนตัวอยู่ ทันทีที่ก้าวเข้าไป หมอกหนาก็ปกคลุมรอบตัวจนแทบมองไม่เห็น กลุ่มของพวกเขาต้องเผชิญกับกับดักและการโจมตีจากอสูรที่ล่องหนได้

“มันอยู่ตรงนั้น!” ฟินน์ตะโกน ขณะที่เอลลาปล่อยเวทมนตร์แสงเพื่อเผยตำแหน่งของอสูร

การต่อสู้นั้นยากลำบาก แต่ในที่สุดไคร์ก็สามารถปลิดชีพอสูรได้ด้วยดาบของเขา หมอกดำค่อยๆ จางหายไป เผยให้เห็นร่างของอสูรที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์โบราณที่ดูน่ากลัว

ความลับที่เปิดเผย

หลังจากช่วยหมู่บ้านได้สำเร็จ ชาวบ้านต่างขอบคุณพวกเขาด้วยความซาบซึ้ง แต่สิ่งที่ทำให้ไคร์และพวกพ้องกังวลคือสัญลักษณ์บนร่างอสูร ซึ่งดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับพลังลึกลับบางอย่าง

เอลลามองไปยังสัญลักษณ์นั้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด เธอรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เธอไม่อาจบอกใครได้

“เราควรรีบไปหอคอยแห่งแสง” เธอกล่าว “ที่นั่นอาจมีคำตอบที่เราต้องการ”

การเดินทางของไคร์และพวกพ้องเพิ่งเริ่มต้น พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับอันตรายและความลับอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า แม้แต่เอลลาที่ดูเหมือนมีเป้าหมายเดียวกัน ก็อาจมีสิ่งที่เธอปกปิดไว้

“บางทีการเดินทางนี้อาจเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ...” ไคร์พึมพำกับตัวเอง