Pieces of the Star: The Moon in the Dark (ตำนานมณีผลึกดารา)
Pieces of the Star: The Moon in the Dark (ตำนานมณีผลึกดารา)
แฟนตาซี-ไซไฟ
Luluca
ท่ามกลางเพลิงสงครามและเกมอำนาจ ในโลกที่กลไกแห่งพระเจ้าเป็นพลังขับเคลื่อน ผู้คนเป็นเพียงฟันเฟืองแห่งโชคชะตา และบทสรุปสุดท้ายมีเพียงคมกริช
  • 208 ตอน
  • 16K
นิยายโดย
  • 3 เรื่อง
  • |
  • 3 คนติดตาม
บทนำ

ยอดหอคอยทอดตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าราตรี เหนือหัวเมืองที่หลับใหล มีเพียงเสียงลมพัดแหวกผ่านซอกอิฐโบราณที่ยังคงตั้งมั่น รอคำพิพากษาจากกาลเวลา แสงจันทร์เคลือบเงาไว้บนพื้นหินเย็น เศษแสงสีนวลไหลผ่านกระจกสี แต่งแต้มสีสันเลือนลางอยู่ตามผนังห้องกว้างขวางที่เกือบไร้ผู้ชม


หญิงสาวในชุดตัวตลกนั่งห้อยขาอยู่บนกรอบหน้าต่าง ภาพร่างแนบอยู่กับจันทร์เต็มดวงเบื้องหลัง ผ้าคลุมยาวปลิวเบาไปกับสายลมเยียบเย็น ผิวขาวเนียนแตะต้องแสงจันทร์จนสว่างนวล ริมฝีปากสีสดรับกับความซุกซนบนดวงหน้า แต่สิ่งที่สะดุดสายตาที่สุดกลับเป็นดวงตาสีม่วงเข้มแสนลึกล้ำ


ลูกบอลทรงกลมสามลูกลอยขึ้นจากมือเรียวขาว ลูกแรก สีขาวสะอาด สงบนิ่งดุจสายลมไร้ตัวตน… ลูกที่สอง สีน้ำตาลทอง หนักแน่น มั่นคง พร้อมโอบรับรากเหง้าทั้งหมดของชีวิต… ลูกที่สาม สีน้ำเงินเข้มลึกล้ำ เย็นเยียบ ซ่อนอารมณ์ ทั้งสามลูก สลับจังหวะขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางคราพาดบังดวงจันทร์ชั่ววูบ ราวกับกำลังชั่งตวงโชคชะตา


“ฝ่าบาทเคยสงสัยหรือไม่…?” เสียงของนางสดใส คล้ายจะขัดกับบรรยากาศที่แวดล้อม ทว่ามั่นคงพอให้บุรุษผู้ยืนเงียบอยู่ไม่ไกลต้องหยุดฟัง “เราควรเริ่มนับความผิดบาปตั้งแต่เมื่อใดกันแน่”


ถ้อยคำถูกโปรยออกมาท่ามกลางแสงจันทร์ เสียงที่เอื้อนเอ่ยนั้นรัวเร็ว แต่คมชัด คล้ายไม่ต้องการคำตอบมากไปกว่าการส่งเสียงให้โลกได้ยิน


“ตั้งแต่มนุษย์เริ่มเอื้อมมือออกมา หมายครอบครองสิ่งที่ไม่ใช่ของตน หรือจากวินาทีที่เขาลงมือทำมัน?”


บุรุษเจ้าของอาณาจักรยังคงยืนนิ่งในเงา เสื้อคลุมยาวไหวเอื่อยตามแรงลม ไม่เอื้อนเอ่ย ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะขยับมือที่แนบข้างลำตัว ลูกบอลในมือหญิงสาวถูกหย่อนขึ้นอีกครั้ง หมุนวนเป็นวงอย่างเชื่องช้า ก่อนรับกลับมาในจังหวะเนียนตา ไร้รอยสะดุด ชั่วครู่ เสียงทุ้มหนักจึงหลุดออกจากริมฝีปากของกษัตริย์เงียบ


“บางคนถามว่าพวกเราไม่กลัวตายหรือ…” เขาหยุดเว้นเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยแรงถ่วง สายตามองบอลสามสีที่ลอยสลับกัน คอยพาดทับดวงจันทร์เบื้องหลัง “แต่พวกเขาไม่เข้าใจ… สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตาย คือการมีชีวิตอยู่ในระบบที่ไม่มีใครศรัทธาอีกต่อไป”


สิ้นคำ ลูกบอลหล่นกลับสู่ฝ่ามือ เงาจันทร์สะท้อนอยู่บนผิวมันวาว ปลายนิ้วของหญิงสาวลากเบา ๆ ไปบนลูกกลม ใบหน้าก้มต่ำคล้ายกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง หรืออาจเพียงซ่อนบางสิ่งไว้ในเงาของแสง


“อาร์เลกกีโน่เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน” เสียงของนางดังขึ้นอีกครั้ง ชัดถ้อยชัดคำ เจืออารมณ์บางเบาในน้ำเสียง “เขาไม่อยู่ใต้กฎของบาร์บารี… พูลซิเนลล่าก็นับเป็นอีกคน”


ใต้ผ้าคลุมสีหม่น แสงสว่างสีเงินยวงเรืองวูบเบา ๆ บริเวณเหนือเนินอก สัญลักษณ์ของพลังอำนาจเหนือสังสารวัฏ ลูกบอลถูกปล่อยขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เส้นทางกลับไม่ราบเรียบ ไม่สอดคล้องกับแรงโน้มถ่วง หากบิดเกลียวกลางอากาศ ร่อนวนไร้ทิศ จังหวะไม่เคยซ้ำ บางลูกพุ่งสูงราวจะแตะแสงจันทร์นอกหน้าต่าง บางลูกกลับต่ำเรี่ยฝ่ามือ คล้ายจะพยายามซ่อนตัวจากแสงนั้นเสียเอง


“เขาคงดูแคลน… มองว่าเราคือผู้ฝันเฟื่อง หลงวาทศิลป์ของพระองค์อย่างโง่งม” ดวงตาสีม่วงสลับซับซ้อนจับจ้องลูกกลมที่หมุนวน “เขามองว่าเราคือผู้แอบอ้าง... ใช้พระนามตัดสินชีวิตผู้อื่นตามใจฝัน เฝ้าเพ้อถึง ‘ยูโทเปีย’ ที่ไม่มีวันเป็นจริง”


เสียงของนางไม่สูงขึ้น แต่ท่วงทำนองนั้นแปรเปลี่ยน ทุกอย่างเยียบเย็นลง


“และเขาพูดถูก พวกเราสร้างคำลวง เราท่องคำอ้างของพระเป็นเจ้า เพื่อปลอบโยนตนเอง สมอ้างในความถูกต้อง ว่าเลือดบนมือเรานั้นมีความหมาย”


ฉับพลัน ลูกบอลลูกที่สี่ลอยขึ้น สีแดงเพลิงเจิดจ้า แตกต่างจากลูกอื่นโดยสิ้นเชิง แรงเหวี่ยงของมันรุนแรงและบิดเบี้ยวจนแทบเฉือนอากาศ หมุนวนแทรกเข้าสู่จังหวะเดิมของอีกสามลูก แสงของมันสะท้อนในดวงตาของนางอย่างชัดเจน


“ดังนั้น หากวันหนึ่ง ข้าได้โอกาสประทับคมกริชลงบนลำคอแกร่งนั้น ข้าจะกระซิบถ้อยคำเดิม คำที่เขาเคยปฏิเสธ บอกซ้ำอีกครั้งอย่างช้า ๆ ถึงคำลวงหลอกของเรา…”



ใครเล่าจะไม่รู้จักภาคีมือสังหาร กลุ่มอำนาจเงียบงันผู้ก่อเงาทาบเหนือราชบัลลังก์ เครือข่ายที่เร้นกายเบื้องหลังหน้าประวัติศาสตร์ ผู้เปลี่ยนทิศทางของโลกด้วยปลายมีด ภายใต้นาม ‘บาร์บารี’ หรือในอีกชื่อที่ผู้ศรัทธากระซิบเรียก ‘ลูกแกะของพระเป็นเจ้า’



“อย่ากล่าวโทษพระเป็นเจ้า หากท่านปฏิเสธพระองค์… และอย่ากล่าวโทษเรา หากท่านปฏิเสธบาร์บารี”



เกี่ยวกับนักเขียน
3 เรื่อง 3 คนติดตาม
รีวิวจากผู้อ่าน