“ว่ายังไง ไม่คิดถึงน้าบ้างเลยหรือ หืม...?
น้ำเสียงตัดพ้อและยังคงรอฟังคำตอบ เมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป เหมือนกับลังเลอะไรอยู่สักครู่
ชลาลัยหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อเขาเอ่ยย้ำเสียงเข้มกว่าปกติ มือใหญ่ที่แตะปลายคางลงน้ำหนักจนเธอรู้สึกได้
“คิดถึงสิคะ คิดถึงมาก คิดถึงจนนอนไม่หลับ” เอ่ยตอบเสียงแผ่ว แต่สำหรับคนฟังรู้สึกว่ามันดังก้องอยู่ในโสตประสาทการรับรู้
มันเป็นคำตอบที่เขาพอใจ อรรณพอยากจะจับร่างบางนั้นนอนลงบนเคาน์เตอร์ในครัว แล้วแสดงให้เห็นว่าเขาเองก็คิดถึงเธอมากเพียงไรในแบบฉบับของเขา
แต่ก็ต้องยั้งใจไว้อีกครั้งอย่างสุดฤทธิ์ ทรมานลึกๆ พร้อมกับกดปากหยักประทับจูบเบาๆ ลงกับหน้าผากเนียนคล้ายกับตั้งใจประทับตราจองตัวเธอเอาไว้ก่อน
จากนั้นย้ายมากดจูบลงไปอีกครั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา เคลื่อนปากหยักออกไปประทับลงครั้งสุดท้าย ที่ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ...
พ่อเลี้ยงหนุ่มมั่นใจในสายตาตนเองว่าเขาไม่ได้ตาฝาด เห็นได้ชัดว่ามันเผยออ้าน้อยๆ รอรับจุมพิตจากเขาอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะส่งเรียวปากหนาทาบทับลงอย่างนุ่มนวล กดย้ำหนักๆ หลายครั้ง เพื่อสะกดกลั้นความต้องการที่อยากจะสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปดูดกลืนน้ำหวานในโพรงปากเล็ก
อรรณพทำเพียงขบเม้มกลีบปากบางอิ่มแสนยวนยั่วนั้น สลับไปมาทั้งบนและล่าง ยั่วเย้าหลอกล่อเธอให้หลงเคลิ้มไปกับเขา เปิดรับสัมผัสบางอย่างที่กำลังส่งผ่านเข้าไปให้เธอได้รับรู้
ร่างบางอ่อนระทวยไร้แรงทรงตัว ยกมือเรียวแตะเข้าที่ปากบางของตัวเองอย่างตกใจเล็กน้อย เมื่อน้าชายถอนริมฝีปากออกไปแล้ว
“เฟริ์สคิสของหนู...” ราวกับละเมอแก้มสาวร้อนผ่าว
ชลาลัยเปล่งเสียงใสออกมาอย่างแผ่วหวิว แต่กระนั้นก็ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้วย ได้ยินสิ่งที่เธอเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แถมยังฉีกยิ้มกว้างจนแก้มปริอย่างพอใจเมื่อเธอเอ่ยเช่นนั้น
ปากอิ่มสั่นระริกไม่เคยพบพาลความรู้สึกหวามไหวที่ยากแก่การควบคุม สัมผัสนั้นทำให้รู้สึกถึงความร้อนที่แล่นซ่านไปทั่วร่างกาย
ด้วยครั้งก่อนๆ แค่เพียงถูกเขากอดและหอมแก้มนวล เธอก็เกือบจะทรงตัวไม่อยู่ แทบจะละลายกลายเป็นของเหลวอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว
มาครั้งนี้ เขารุกเข้าจูบโดยไม่ทันตั้งตัว สาวน้อยไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนได้ ร่างบางถึงกับอ่อนปวกเปียกราวกับเป็นขี้ผึ้งถูกลนด้วยความร้อนเลยทีเดียว
*****************************************