ช่วงต้นเดือนแบบนี้ ห้องสมุดจัดเอาเล่มสบายๆ ฮาๆ อย่าง ‘กุ้ยเฟยขี้นินทา’ มาฝากทุกคน
กุ้ยเฟยขี้นินทาเป็นผลงานของนักเขียน ‘เมียหลวงยืนหนึ่ง’ อันเลื่องลือ แต่เล่มนี้มาแนวตลกและค่อนข้างทันสมัยในภาษาพูดของตัวนางเอกที่เป็นสาวยุคปัจจุบัน เรียกว่าเป็นงานแนวโบราณที่เลือกใช้ภาษาทันสมัย ถึงพริกถึงขิง และแหวกแนวกว่าเล่มอื่นๆ ของห้องสมุด
นางเอกของเราค่อนข้างสำมะเลเทเมา เกเร ตีหมาด่าคนแก่ แต่ดันต้องเข้าวังแทนน้องสาวที่หนีตามผู้ชายไป นางต้องกลายเป็นพระสนมชั่วคราวให้ฮ่องเต้สายโหด ความสุขในโลกวังหลังอันแสนจะน่าเบื่อของนางก็คือการนินทาฮ่องเต้ในใจโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยิน–ทุก–ประโยค และจดบัญชีหนังหมาเอาไว้แล้ว
แต่พอถึงวันจะเอาคืน... เอ้า! หมดโปร น้องสาวดันกลับมา
สรุป ‘เต้’ จะได้เอาคืน ‘กุ้ย’ ไหม?
เกมนี้ใครรักก่อน... คนนั้นแพ้ใช่หรือเปล่า?
เปิดหน้าถัดไปเพื่อติดตามเรื่องราวของทั้งคู่กันได้เลย ละมุนหัวใจมากค่ะเล่มนี้
โปรย
เธอคนนี้ ‘กุ้ยเฟย’
ลือกันว่าใต้หล้านี้ จะหาหญิงใดมั่นคงในรักเทียบเท่ากุ้ยเฟยเป็นไม่มี
ความรักของนางแว่วหวานดุจเสียงลม มั่นคงยิ่งภูผา อุ่นละมุนกว่าแสงแดดในยามเช้า
ยืนหยัดเคียงข้างฮ่องเต้ที่ประชาราษฎร์ล้วนสาปแช่ง
แต่นางหาได้ใส่ใจ เพราะนางคือรักเดียว รักแท้ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป
เขาคนโน้น ‘เกาจิ้น’
เพื่อขึ้นครองบัลลังก์ ฮ่องเต้เกาจิ้นหักหลังบิดา สังหารพี่น้อง
แม้แต่ฟ้าดินได้ยินชื่อเขายังปวดใจ ถึงกับส่งสายฟ้าฟาดลงกลางม้าศึกที่เขาควบฝ่าสายฝน
แต่คนเลว แม้แต่นรกยังไม่ต้องการ
เขา—ไม่ตาย
แล้วมันทำไม?
กองทหารม้าคุ้มกันฮ่องเต้ที่บาดเจ็บสาหัสเข้าสู่วังหลวง พวกรู้ดีรีบส่งข่าวไปตำหนักของกุ้ยเฟย
นางถลามาเฝ้าดูพระอาการราวกับนกน้อยปีกหัก ร่ำไห้ใจจะขาด
เกาจิ้นเห็นดังนั้นพลันรู้สึกหวั่นไหว ยื่นมือลูบแก้มเนียนนุ่มของนาง “เราไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องห่วง”
แต่หูกลับได้ยินเสียงแว่วตอบกลับ ‘ไอ้ลูกหมา ใครห่วงกัน’
เกาจิ้นตะลึงค้าง มองกุ้ยเฟยที่กำลังช่วยประคองอยู่ด้านข้าง ริมฝีปากนางปิดสนิท มิได้พูดสิ่งใด
แล้วเมื่อครู่... ใครพูด?
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว