“ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่น่ะ”
“อุ๊ยกฤษ!! ปล่อยซาซ่าก่อนค่ะ” เจ้าหล่อนแสร้งทำเป็นตกใจได้อย่างแนบเนียน ใบหน้าเฉี่ยวคมเหยียดยิ้มให้กับอริสาที่ยืนนิ่งด้วยความตกใจ
“..........” ภาพที่เธอเห็นราวกับร่างกายโดนสาปให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ อาการชาแล่นขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงส่วนหัว อริสามองภาพชายหญิงที่กำลังแลกจูบกันด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง ถึงจะเห็นเพียงแค่ด้านหลัง แต่การที่ผู้ชายกับผู้หญิงนั่งแนบชิดใบหน้าติดกันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร มือเรียวที่ประคองถ้วยกระเบื้องใบใหญ่ไว้ในมือถึงกับไร้เรี่ยวแรงที่จะยึดจนเผลอปล่อยลงกับพื้น เศษกระเบื้องแตกกระจายไปทั่วพื้นห้อง พลันขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจวนจะล้มลงในทุกขณะ ถึงจะเซถอยหลังไปเล็กน้อยแต่เธอก็ยังสามารถประคับประคองตัวเองให้ยืนเอาไว้ได้ ราวกับต้องการให้ความเจ็บปวดแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง แต่กระนั้นเท้าข้างหนึ่งก็ได้เหยียบเศษกระเบื้องที่ตกแตกเข้าอย่างจัง
ร่างสูงใหญ่ดันร่างนางแบบสาวให้ออกห่าง “เข้ามาทำไมถึงไม่เคาะประตู แล้วมีอะไร”
.....................................................................................................................................................
“ทำอะไรกัน” กฤษณะตรงเข้ากระชากคอเสื้อผู้จัดการหนุ่มด้วยความโมโห ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพตรงหน้านี้ มันถึงกับทำให้เขาควันออกหูควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
“ฉันถามว่าแกจะทำอะไรไอสร”
“หยุดนะคะ พวกเราไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยพี่สรเดี๋ยวนี้” เป็นอริสาที่รีบลงมาจากรถแล้วสั่งให้กฤษณะปล่อยมือจากสรชัย
“แต่ที่พี่เห็นแทบจะจูบกันอยู่แล้วนะ” เขาหันไปพูดกับหญิงสาวเสียงอ่อน แล้วหันกลับมาเสียงเข้มใส่คนที่อยู่ตรงหน้า “ขอต่อยแกสักทีเถอะ”
ว่าแล้วมือใหญ่ก็เงื้อมขึ้นทำท่าว่าจะต่อยตามที่พูด โดยที่อนุรักษ์ เตชิต และจีระยุได้แต่ยืนมองพร้อมกับทำหน้าระรื่น ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเข้าไปช่วยเพื่อนแต่อย่างใด นั้นก็เพราะรู้อยู่แล้ว ว่าหญิงสาวจะต้องจัดการคนอารมณ์ร้อนได้อยู่หมัด
“หยุดนะ ลูกหว้าบอกให้หยุด”
เพี๊ยะ!! เสียงหวานร้องห้ามเอาไว้ พร้อมกับฝ่ามือบางกระทบใบหน้าคมเข้มอย่างแรง จนหน้าของกฤษณะหันไปตามแรงมือบาง
“ลูกหว้า!!!” เขาปล่อยมือจากคอเสื้อของสรชัยแล้วมาลูบแก้มตัวเองด้วยอาการช็อก
...........................................................................
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว