“กลางวันแสกๆ ไม่อายฟ้าอายดิน”
พันศักดิ์เบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้า เด็กสาวใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา ตัวสั่นเทาสะบัดมือหนีมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ ก่อนจะเดินกระเผลกๆ ออกจากกระท่อม
หนุ่มใหญ่สบถยาวเหยียดเมื่อหันไปเห็นก้นขาวๆ ของเด็กสาววัยสิบแปด เธอเอาเสื้อผ้าขาดๆ ปิดบังเนื้อตัว ร้องไห้สะอึกสะอื้นเดินหนีด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
“จะไปไหน” ร่างสูงใหญ่เกือบร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรตามมากระชากแขนเล็กของเด็กสาว เธอสะดุ้งสุดตัวยังร้องไห้ไม่ขาดสาย
“มังคุดจะกลับบ้าน” มังคุดตอบเสียงสั่นๆ สะอื้นจนตัวโยน
“เดินแก้ผ้าไปแบบนี้น่ะเหรอ” ขาเอ่ยถามอย่างหงุดหงิดใจไม่น้อย
“แล้วจะให้มังคุดทำยังไง” เด็กสาวถามเสียงสะอื้น
“เอาใบกล้วยปิดไหมกันอุจาดตา” เขาประชดแต่เธอกัดปากตัวเองแล้วสะบัดมือหนี
“โกรธรึที่มาขัดจังหวะ” พันศักดิ์เลิกคิ้วขึ้นถาม
“ปากร้าย มังคุดไม่เคยคิดจะมีผัวทีเดียวสิบคนหรอกนะ”
“อ้อ... นึกว่าอยาก”
“ลุงศักดิ์!” เธอเสียงดังใส่เขายังร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำตาเปรอะเปื้อน
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!
เสียงกรีดร้องดังขึ้น พันศักดิ์อุ้มร่างเล็กขึ้นสู่อ้อมแขนหลังจากสะพายปืนลูกซองไปทางด้านหลัง เธอปัดป้องปิดบังเนื้อตัวเป็นพัลวัน
“อย่าดิ้นสิ ตกลงไปแข้งขาหักไม่รู้ด้วยนะ” คนเถื่อนหน้าดุทำเสียงดุ เด็กสาวรีบหยุดดิ้นกอดคอหนาเอาไว้เพราะกลัวตก ยังสะอึกสะอื้นอยู่ไม่หาย เธอซุกหน้าที่อกกว้าง อับอายหนักหนาที่ต้องมาเปลือยกายต่อหน้าเขา
“ทีหลังก็นัดมันมาทีละคนสิ สิบคนไม่ฉีกขาดรึ”
“มังคุดเปล่านัดใครนะ พวกนั้นมาดักฉุดจะรุมข่มขืน ไม่เห็นหรือไงว่ามังคุดร้อง” เธอเถียงคอเป็นเอ็น
“อ้อ... จะไปรู้เรอะ ผู้หญิงบางคนชอบร้องให้ผู้ชายตื่นเต้น” เธอกัดปากตัวเองเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น